iTunes 9 : มีอะไรใหม่ใน iTunes 9 บ้าง [vid] - [Update_1]

สำหรับ iTunes 9 และ feature ใหม่เบื้องต้นในภาพรวมที่ไม่ใช่การใช้งานแบบละเอียดครับ [มีสอง video ในโพสนี้] =)

iTunes LP

เป็น content เสริมพวกไฟล์ภาพหรือไฟล์วิดีโออื่น ๆ แถมมากับการซื้ออัลบั้มเต็มบน iTunes
update : อ่านเบื้องหลัง + ข้อจำกัดของ iTunes LP แบบละเอียดยิบ ๆ ได้ ที่นี่ครับ - อ่านจาก http://daringfireball.net/

iTunes Extras

เป็น content เสริมเหมือน iTunes LP แต่เป็นกับหนังแทนเพลงครับ

Home Sharing

การแชร์ iTunes Library ผ่าน local network ไม่เกิน 5 เครื่อง โดยที่สามารถ copy เพลงข้ามไปมา หรือว่า sync ให้เหมือนกันทั้งหมดแบบอัตโนมัติได้

Genius Mixes

สร้าง Mixes ส่วนตัวขึ้นมา 12 อันโดยที่เราไม่ต้องทำอะไรครับ iTunes สร้างให้เราเอง

Sync

การจัดการ Sync ไฟล์เข้า iPod Touch/ iPhone แบบใช้งานง่าย และปรับได้ลึกกว่าแบบเดิมครับดูได้จาก Video ด้านล่างนี้ครับ

update_1 : เพิ่ม link ไปหน้าเว็บอธิบายเบื้องหน้าเบื้องหลังของ iTunes LP แบบละเอียดยิบ

iTunes - Basic : หน้าตาและส่วนประกอบของ iTunes # 1

หน้าตาและส่วนประกอบทั่วไปของ iTunes # 1

note : บทความเกี่ยวกับหน้าตาและส่วนประกอบทั่วไปของ iTunes นี้ผมขอแบ่งเป็น 2 ตอนนะครับ เพราะเนื้อหาค่อนข้างจะเยอะ

หน้าตาของโปรแกรมทั่วไปบน iTunes พร้อมคำอธิบาย

อธิบาย

1.ส่วนควบคุม media

เป็นเหมือนปุ่มควบคุมในโปรแกรม media player ทั่วไปเรียงตามลำดับซ้ายไปขวาดังนี้

• ปุ่ม Backward ย้อนกลับ
• ปุ่ม Play
• ปุ่ม Forward เล่นเพลงถัดไป
• พร้อมกับตัว slider ปรับระดับเสียงดัง-เบาได้จากตรงนี้

2.Source List
เป็นรายการของ media ต่าง ๆ ที่เราเล่นผ่าน iTunes ครับ มีส่วนประกอบย่อย ๆ ดังนี้

• Library : เป็นรายการของ Library ต่าง ๆ ที่เรามีอยู่ในเครื่อง ซึ่ง media (เพลง, หนัง, audiobook, podcasts) ที่เรา import เข้ามาใน Library ของ iTunes จะถูกแยกเก็บตามประเภทของ media นั้น ๆ ดังนี้
  
  • Music : เป็น Library เก็บเพลงทั้งหมด
  • Movies : เป็น Library เก็บหนัง
  • TV Shows : เก็บรายการทีวี (สำหรับผู้ที่อยู่ในต่างประเทศ แล้วซื้อผ่าน iTunes Store ครับ)
  • Podcasts : เก็บรายการ Podcast (ทั้งรายการแบบเสียง และรายการ Video Podcast)
  • Audiobooks : เก็บ audiobooks
  • Radio : เป็นรายการวิทยุออนไลน์ หรือว่า Internet Radio ครับ มีเพลงหลายแนวให้เลือกฟังสด ๆ ถ้าใครต่อเน็ทได้ก็ลองเล่นตรงนี้ดูนะครับ
  • Ringtones : เก็บริงโทนที่เรามีสำหรับ sync เข้า iPhone ครับ
• iTunes Store : เป็นร้านออนไลน์ที่เราสามารถเข้าไปซื้อเพลง, หนัง, ละครทีวี(ในต่างประเทศ), audiobook หรือว่าโหลด podcast ได้จากตรงนี้ครับ

note : ถ้าเราโหลดรายการทีวี หรือว่า podcast มาแล้วยังไม่ได้ดู จะมีตัวเลขขึ้นบอกเอาไว้ในส่วนของ Library นั้น ๆ ครับ

• Devices : เป็นแหล่งเก็บ Media จากอุปกรณ์อื่น ๆ ที่เรามีเช่น iPod, iPhone หรือว่าถ้าใครใส่ CD เพลงเข้าไป ก็จะขึ้นมาตรงนี้ครับ (มีปุ่ม Eject อยู่ตอนท้ายของแต่ละ device เอาไว้ eject ออกจากเครื่องเมื่อเราไม่ใช้แล้ว)

และสำหรับ iPod, iPhone เราสามารถกดเข้าไปดูรายละเอียดต่าง ๆ ที่อยู่่ในแต่ละอุปกรณ์ได้จากการคลิ๊กปุ่มสามเหลี่ยมที่อยู่ด้านหน้าของแต่ละ device ครับ เค้าจะคลี่รายละเอียดออกมาแบบนี้

ดู หลักการทำงานของ iTunes + iPod, iPhone ประกอบ

• Play list : เป็นรายการเพลงที่เราเอามาเรียงกันไว้เพื่อเล่นต่อกันเป็่นชุดครับ โดยใน 1 playlist สามารถมีเพลงกี่เพลงก็ได้

ปรกติจะมีรายการใน Playlist ดังนี้

• Party Shuffle : เป็นการสร้าง Playlist แบบสุ่มเอาจากเพลงที่เรามีใน Library (มีมาให้ใน iTunes อยู่แล้ว)
• Genius : เป็นการสร้าง Playlist แบบสุ่มเหมือนกัน แต่อ้างอิงจากเพลงต้นทางที่เราเลือกเอาไว้ครับ โดย playlist ที่จะถูกสร้างขึ้นมาใหม่นี้จะมีแนวเพลงที่ฟังแล้วไปกันได้กับเพลงต้นทางของเรา (ใช้ได้กับเพลงฝรั่งที่มีขายอยู่บน iTunes Store นะครับ ยังใช้ตรงนี้ไม่ได้กับเพลงไทย) ดู การใช้ Genius ประกอบ
• Smart Playlist : เป็นการสร้าง Playlist จากเงื่อนไขที่เรากำหนด เช่น สร้าง playlist เฉพาะเพลงแจ๊ส หรือว่าสร้าง playlist เพลงที่เราชอบ (เรทติ้ง 5 ดาว) เท่านั้น เป็นต้น ซึ่งจะมีมาให้ใน iTunes อยู่ในเบื้องต้น และเราสามารถสร้างเพิ่มเติมได้ภายหลังครับ
• Playlist : เป็นชุด Playlist ทั่วไป ที่เราสามารถเลือกเพลงมารวมเป็นชุดได้ตามใจฉัน จะมีมาให้ใน iTunes บ้างตอนแรก แล้วให้เราสร้างที่เหลือต่อเองครับ โดยสามารถสร้าง playlist ใหม่ได้จากเมนูบาร์ เลือก File/New Playlist หรือจะกดเครื่องหมาย + ที่มุมด้านซ้ายล่างของ iTunes หรือกด Command + N ก็ได้

ในกรณีที่มี Playlist/ Smart Playlist เยอะ ๆ ก็สามารถสรา้ง Playlist Folder เพื่อเป็น Folder เอาไว้เก็บ Playlist อีกทีได้ครับ (เหมือนรูปตัวอย่าง) โดยไปที่เมนูบาร์ เลือก File/ New Playlist Folder จากภาพตัวอย่างด้านบน ผมมี Smart Playlist เยอะมาก ก็เลยสร้าง Folder เก็บไว้ครับ จะได้ดูไม่รก เมื่อกดเข้าไปดูก็จะคลี่ออกมาแบบนี้

3.Album Artwork, Video Viewer (Selected item, Now Playing)
ส่วนนี้ เอาไว้แสดงภาพเกี่ยวกับ media ที่เราเล่นอยู่

• ถ้าเราฟังเพลง จะเป็นการแสดงปกของอัลบั้มที่เราฟังหรือว่าเลือกอยู่ (ดู การจัดการ Alum Artwork กับเพลงใน iTunes ประกอบ)
• ถ้าเราดูหนัง จะเป็นหน้าต่างเล็ก ๆ แสดงภาพนิ่งของหนังที่เราดูครับ (Video Viewer)
• ถ้าเราฟัง Podcast ตรงนี้จะเป็นภาพประกอบรายการ podcast โดยจะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ตามแต่ผู้จัดรายการ Podcast จะกำหนด
• ถ้าเราดู Video Podcast ตรงนี้จะเป็นภาพนิ่งของรายการ Video Podcast ที่เราดูอยู่ครับ

note : เวลาเราคลิ๊กลงไปตรงนี้ จะขึ้นหน้าต่างใหม่ของภาพ media ที่แสดงอยู่ขึ้นมาครับ
4.ปุ่มลัดสำหรับสร้าง Playlist, การสุ่มเพลง, การเล่นซ้ำ และการเปิดปิด Artwork pane

อธิบายแบบเรียงลำดับจากซ้ายไปขวาดังนี้

• ปุ่มเพิ่ม Playlist ใหม่
• ปุ่มการเล่นแบบสุ่ม (Shuffle) จะเป็นการสุ่มเล่นเพลงแบบไม่เรียงลำดับที่เราจัดเอาไว้
• ปุ่มการเล่นซ้ำ (Repeat)
• ปุ่มเปิด - ปิด Artwork Pane

5.รายการเพลงใน Library/ Playlist ของเราส่วนนี้จะแสดงรายการเพลง, หนัง หรือว่า media อื่น ๆ ตาม Playlist หรือว่า Library ที่เราเลือก สามารถปรับเปลี่ยนได้ ดูจากหัวข้อที่ 7 ประกอบ

6.Mini LCD สำหรับบอกสถานะของ iTunes
ผมไม่รู้ว่าจะเรียกตรงนี้ว่าอะไรดี แต่เหมือนเป็นจอ LCD ขาวดำแบบเครื่องเล่นเพลงรุ่นเก่า ๆ =P
ตรงนี้จะเอาไว้แสดงสถานะต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น หรือว่าเรากำลังทำอะไรอยู่บน iTunes ครับ เช่น

• • สถานะตอนกำลังฟังเพลง

• • สถานะตอนกำลัง sync กับ iPod, iPhone

iTunes - Basic : หน้าตาและส่วนประกอบของ iTunes # 2

หน้าตาและส่วนประกอบของ iTunes # 2

7.View Options
ตรงนี้จะเป็นการเลือกดูรายการ media ใน iTunes ในรูปแบบต่าง ๆ ครับ

อธิบาย + ตัวอย่าง (เรียงจากซ้ายไปขวา)

• List view
• Grid view
• CoverFlow

View 1 : List View
จะเป็นการเรียงไฟล์ในลักษณะคล้าย ๆ กับบน Finder ที่เราสามารถเลือกดูข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องได้ ไม่ว่าจะเป็น ชื่อ, ความยาวของไฟล์, อัลบั้ม, แนวเพลง, เรทติ้ง ... ฯลฯ และจัดการเรียงลำดับได้จากข้อมูลประกอบเหล่านี้อีกด้วย

เพิ่มเติมในส่วนของ List View :

1.บนแถบหัวข้อด้านบน ถ้าเราคลิ๊กขวา (หรือ Ctrl+Click) เราจะมีตัวเลือกแสดงรายละเอียดต่าง ๆ ของไฟล์เพิ่มขึ้นมา

ดู หัวข้อต่าง ๆ ที่สามารถเลือกได้จาก List view บน iTunes ประกอบ (ผมแยกไว้อีกหน้านึงเพราะว่ารายละเอียดเยอะครับ ถ้าเอามาใส่รวมไว้ในนี้กลัวว่าจะยาวเกินไป =)

2.เราสามารถสลับลำดับหัวข้อต่าง ๆ ที่แสดงอยู่ได้โดยการคลิ๊กแล้วลากสลับตำแหน่งกันครับ

3.เราสามารถเรียงลำดับไฟล์ตามหัวข้อต่าง ๆ ได้ด้วยการคลิ๊กไปที่ชื่อหัวข้อนั้น ๆ โดยจะเป็นการเรียงลำดับมากไป - น้อย หรือ น้อย - มาก หรือเรียงตามลำดับตัวอักษร (ชื่อเพลง)ก็ได้ครับ

4.ปุ่มลูกศรเล็ก ๆ ด้านซ้ายมือสุดของหัวข้อ จะเป็นปุ่ม เปิด / ปิด Artwork ใน List view ครับ

ถ้าเราคลิ๊กเข้าไป จะมี Artwork แสดงขึ้นมา พร้อมกับเรทติ้งที่ใส่ให้กับทั้งอัลบั้มได้

View 2 : Grid View
เป็นการแสดงผลแบบใหม่บน iTunes 8 โดยจะแสดงไอคอนของ Artwork แบบเรียงกันไป คล้าย ๆ กับ Event View บน iPhoto

Grid View : Music

มีแถบควบคุมต่าง ๆ อยู่ด้านบน

เรียงลำดับจากซ้ายไปขวาดังนี้

• Albums : เป็นการเรียงลำดับตามชื่ออัลบั้ม (กดตรงนี้จะเป็นการเรียงจาก A-Z เท่านั้น ถ้าอยากให้เรียงจาก Z-A ต้องเลือกคลิ๊กขวาแล้ว Sort by ครับ)
• Artist : เรียงตามชื่อศิลปิน
• Genres : เรียงตามประเภทของเพลง
• Composers : เรียงตามข้อมูลในส่วนของ Composer ของไฟล์เพลง
• แถบ slider กำหนดขนาดใหญ่เล็กของ Artwork ใน view นี้

ถ้าเรากดคลิ๊กขวา (หรือ Ctrl+Click) ที่แถบคำสั่งด้านบนนี้ จะมีตัวเลือกเพิ่มเติมมาให้ สามารถปรับเปลี่ยนการแสดงผลได้แบบนี้ครับ

Sort Albums : เป็นการเรียงลำดับการแสดงผลจากข้อมูลที่มีให้เลือกตามนี้

• By Title : จากชื่ออัลบั้ม
• By Artist : จากชื่อศิลปิน
• By Genre : จากประเภทของเพลง
• By Year : จากปีที่ออกจำหน่าย
• By Rating : จากเรทติ้งที่เรากำหนด

โดยมีการเรียงลำดับข้อมูลอยู่ 2 แบบคือ

• Ascending : เป็นการเรียงจาก มากไปน้อย หรือว่าตามลำดับอักษรจาก A-Z
• Descending : เป็นการเรียงจาก น้อยไปมาก และตามลำดับตัวอักษรจาก Z-A

และสามารถซ้อนเงื่อนไขการเรียงลำดับจากที่เรากำหนดเพิ่มได้ในหัวข้อ Within ครับ

Group Album : จะเป็นการรวมรายชื่อของศิลปินเดียวกันเข้าไว้ในกลุ่มเดียวกัน

Grid View : Podcast
การแสดงผลแบบ Grid view ตรงส่วน Podcast นี้จะคล้าย ๆ กับ Grid view ของส่วน Music นะครับ เพียงแต่จะมีตัวเลขแสดงตอนที่เรายังไม่ได้ฟัง/ดู แสดงตรงมุมขวาบนของแต่ละ Artwork

มีส่วนควบคุมคล้าย ๆ กัน

เรียงจากซ้ายไปขวาดังนี้

• Podcasts : เรียงตามชื่อ podcast จาก A-Z
• Categories : เรียงตามประเภทของ podcast
• New : เรียงตามจำนวน podcast ที่เรายังไม่ได้เปิดู
• slider ปรับขนาดของ Artwork ใน List view นี้ครับ

ถ้าเราต้องการปรับการเรียงลำดับ ก็ใช้วิธีเดียวกับ Grid view : Music ด้านบนได้เลย โดยคลิ๊กขวา (หรือกด Ctrl+Click) ที่แถบด้านบนนี้เพื่อเลือกเปลี่ยนการแสดงผลครับ =)

View 3 : CoverFlow
เป็นการแสดงผลแบบผสมที่จะมี Artwork และ List view เข้าด้วยกัน

อธิบาย

1. เลือกจาก Artwork ที่เราต้องการได้จาก Slider นี้ หรือจะกดเลื่อนทีละอันได้จากลูกศรปลาย Slider ครับ
2. เลือกจากรายการที่มีอยู่ด้านล่าง
3. เข้าสูงโหลด Full Screen เป็น CoverFlow แบบเต็มจอ

เราสามารถปรับขนาดของส่วน CoverFlow ในตอนนี้ได้โดยคลิ๊กที่ holder (ที่วงกลมสีแดงเอาไว้) แล้วเลื่อนขึ้น - ลงครับ

8.ช่องค้นหา
เป็นเหมือนการใช้ Spotlight บน iTunes ครับ อยากหาอะไร ยังไง ก็สามารถใส่คำค้นไปได้เลยตรงนี้ =)

9.Genius
เป็นการเปิด / ปิด หน้าต่างของ Genius Sidebar บน iTunes ครับ
ดู การใช้ Genius ประกอบ

หลักการทำงานของ iTunes + iPod, iPhone

นอกจาก iTunes จะเป็นแหล่งรวมไฟล์ media ต่าง ๆ (หนัง, มิวสิควีดีโอ, audiobook ฯลฯ) ที่เรามีอยู่ในเครื่อง Mac ของเราแล้ว ถ้าเรามี iPod, iPhone เรายังสามารถ sync เพลง หรือว่า media ต่าง ๆ ติดตัวเอาไปฟังนอกสถานที่ได้ด้วย

หลักการทำงานของ iTunes + iPod, iPhone จะเป็นการ sync แบบทางเดียวครับ คือจากใน iTunes เข้าสู่ iPod, iPhone เป็นหลัก คิดง่าย ๆ คือ อะไรที่มีอยู่ใน iTunes บนเครื่องเรา เวลา sync ก็จะถูกนำลงไปใน iPod, iPhone ด้วย

โดยทั่วไปเราไม่สามารถเข้าไปแก้รายละเอียดต่าง ๆ ในรายการที่ถูก sync เข้าไปหรือว่ามีอยู่แล้วใน iPod, iPhone ได้ครับ คือเราจะแก้ไขรายละเอียดได้ผ่านจาก Library บน iTunes เท่านั้น ซึ่งแต่ละ iPod,iPhone ก็จะผูกรายละเอียดต่าง ๆ ตาม Library บน iTunes ที่เรามีครับ โดยปรกติแล้ว เราไม่สามารถนำเพลงหรือว่า media อื่น ๆ จากใน iPod, iPhone ออกมาได้ (ต้องใช้ app อื่นช่วย)

ตรงนี้ทำให้เราแลกเปลี่ยนเพลงหรือ media จากคนละ iTunes Library ผ่านทาง iPod, iPhone ไม่ได้ครับ เพราะทุกครั้งที่เราต่อ iPod, iPhone เข้าไปแล้ว media เดิมบนเครื่องจะถูกลบออกแล้วแทนที่ด้วย media บน iTunes ที่ต่ออยู่ลงไปใหม่เสมอ (ในกรณีที่เรา sync กับ Library เดิมที่เคย sync มาก่อนหน้านี้ เค้าจะเพิ่มเฉพาะไฟล์ที่มีการ update ลงไปในการ sync ครับ จะไม่เริ่มนับ 1 ใหม่ทุกครั้งถ้าเรา sync กับ iTunes เดิม)

ถ้าเราเอา iPod, iPhone ไป sync กับ iTunes บนเครื่องอื่น (ที่ไม่ใช่ของเราที่เคย sync ประจำก่อนหน้านี้) เค้าจะเตือนเราครับว่า media ของเดิมที่มีอยู่บน iPod, iPhone จะถูกล้างทิ้ง แล้วแทนที่ด้วย media จาก iTunes ใหม่ที่เราต้องการจะ sync

ถ้ายังงงอยู่ ผมลองทำภาพประกอบมาให้ตามด้านล่างนี้นะครับ =)

ตัวอย่างพร้อมภาพประกอบ

เรามี iPod (หรือว่า iPhone) อยู่แล้วทำการ sync เข้ากับ Library A

iTunes จะทำการ sync ข้อมูลจากใน Library A มาไว้บน iPod(iPhone)

เมื่อ sync เสร็จแล้ว เราก็จะมี Library A ติด iPod, iPhone ออกไปฟังเพลงนอกสถานที่

ถ้าเกิดเราคิดว่าต้องการจะแบ่งเพลงจากใน iPod, iPhone ที่เรามีอยู่ให้เพื่อน เราเลยเลือกที่จะ sync กับเครื่องเพื่อนที่มี Library B อยู่ เราจะถูกเตือนมาประมาณนี้ครับ

เค้าบอกเราว่า iPod, iPhone ที่ต่อเข้ากับ Library B อยู่ขณะนี้ เคยถูก sync จาก Library อื่นมาก่อน แล้วจะมีตัวเลือกให้เราตัดสินใจระหว่าง

• Cancel : ยกเลิกการ sync กับ Library B ที่เรากำลังต่ออยู่ หรือ
• Erase and Sync : ลบของเดิม (Library A) ที่มีอยู่บน iPod ทิ้งแล้วทำการ Sync ของใหม่เข้าไป

ถ้าเราเลือก Erase and Sync จะได้ผลตามนี้ครับ

เครื่องจะเริ่มทำการ sync ข้อมูลจาก Library B เข้ามาแทนของเดิมใน iPod, iPhone ของเรา

เมื่อ sync เสร็จแล้ว เราจะได้ข้อมูลจาก Library B เข้ามาแทนของเดิมครับ

หมดแล้วครับ หวังว่าคงพอจะทำให้เห็นภาพขึ้นมาบ้างไม่มากก็น้อยนะครับ

Import songs 1 : เรื่องควรทราบก่อนการ Import เพลงเข้า iTunes

บน iTunes เราสามารถเลือกได้ว่าเราต้องการ Import เพลงเข้ามาเป็น format อะไรบ้าง น่าจะเป็นการดี ที่เราจะเลือกตรงนี้เอาไว้ก่อนการ Import เพลงให้เหมาะกับการใช้งานของเรา จะได้ไม่ต้องเสียเวลา convert ใน iTunes ทีหลัง และนี่คือวิธีการครับ

การกำหนด Format ของเพลงที่จะ Import เข้า iTunes

1.บน iTunes บนเมนูบาร์เลือก iTunes/ Preferences หรือกด Command+, เพื่อเข้าส่วน Preferences บน iTunes

2.ในหน้าต่าง Preferences เลือก General แล้วเลือก Import Setting...

note :

1. สำหรับ iTunes เวอร์ชั่นอื่นที่ไม่ใช่ iTunes 8 การตั้งค่าตรงนี้อาจจะอยู่คนละที่กันบน Preferences นะครับ
2. ถ้าต้องการให้แสดงชื่อเพลงกับชื่อแผ่นอย่างถูกต้องเลยแบบอัตโนมัติตอน Import ให้ติ๊กที่ช่อง Automatically retrieve CD Track names from Internet ครับ (ดู Import song 2 : การนำเพลงเข้า Library บน iTunes ประกอบ )

3.จะมีหน้าต่างใหม่แสดงขึ้นมา

อธิบาย

1.Import Using : จะเป็นการกำหนดว่าให้เพลงที่ถูก Import เข้ามาใน Library ของ iTunes เป็น format อะไร มีให้เลือกตามนี้ครับ

โดยทั่วไป ถ้าคิดว่าจะเอาไปเล่นบน iPod, iPhone หรือเครื่องเล่นเพลงอื่น ๆ ด้วย ให้เลือกแบบ MP 3 Encoder ครับ หรือจะเลือกเป็น AAC Encoder ก็ได้ เพราะเครื่องเล่นเพลงสมัยใหม่รองรับ format นี้เยอะขึ้นแล้ว (AAC format นี้เป็นของ Apple ครับ)

2.Setting : ตรงนี้จะเอาไว้ตั้งค่า Bit Rate ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคุณภาพเพลงครับ ยิ่ง Bit Rate มาก เพลงก็จะมีคุณภาพดี แต่ขนาดไฟล์ก็จะใหญ่ขึ้นด้วย

จากนั้นกด OK เพื่อยืนยัน

หลังจากนี้ต่อไป เพลงทุกเพลงที่เรา Import เข้ามาก็จะถูกแปลงเป็น format ตามที่เราต้องเอาไว้ตรงนี้นะครับ ซึ่งถ้าเกิดเราต้องการจะเปลี่ยนสามารถเปลี่ยนแปลงได้โดยการทำซ้ำวิธีการแบบเดิมครับ =)

Import songs 2 : การนำเพลงเข้า Library บน iTunes

Import : การนำเพลงจาก CD เข้ามาไว้ใน Library ใน iTunes

วิธีการ import เพลงจาก CD เข้า Library ใน iTunes สามารถทำได้ดังนี้ครับ

1.ใส่แผ่น CD เพลงที่เราต้องการเข้าไปในเครื่อง
2.บน iTunes เราจะเห็น CD เพลงของเราแสดงเพิ่มขึ้นมาตรง Devices ทางด้านซ้ายมือ

3.ให้เราไปเลือกที่ชื่อ CD เพลงจากทางด้านซ้ายตรง Devices นี้ เราจะเห็นรายการเพลงทั้งหมดในแผ่นของเรา

เลือก Import CD จากทางด้านมุมขวาล่างของหน้าต่าง iTunes (ที่ลูกศรชี้) เพื่อทำการเริ่ม import เพลงเข้า iTunes ครับ โดยปรกติ แผ่นเพลงที่เราใส่เข้าไปจะมีชื่อเป็น Audio CD และชื่อเพลงต่าง ๆ จะเป็น Track 01..02..03.. ถ้าต้องการ Import พร้อมกับชื่อเพลงที่ถูกต้องจากแผ่นเลย ให้ ดูขั้นตอน การ Import เพลงจาก CD พร้อมชื่อเพลงที่ถูกต้องด้านล่างก่อนกด Import CD นะครับ (ใช้ได้กับ CD เพลงฝรั่ง ที่มีขายบน iTunes Store เท่านั้น)

เมื่อเรากด Import CD แบบปรกติแล้ว เค้าจะเริ่มทำการ Import เพลงลง Library ใน iTunes ให้เราครับ จะเห็นขั้นตอนจากช่อง LCD ด้านบน และมีสัญลักษณ์เครื่องหมายถูกสีเขียวที่จะบอกเราว่าเพลงไหน Import เข้ามาแล้ว

หลังจากรอสักระยะ เมื่อ Import เสร็จแล้ว จะเป็นแบบนี้ครับ

<

p style="text-align: center">
เมื่อ Import เสร็จแล้ว ก็ให้ Eject แผ่นออกโดยวิธีใดวิธีหนึ่งดังต่อไปนี้

• กดเครื่องหมาย eject จากด้านซ้ายมือท้ายชื่อของ Audio CD หรือ
• บน Desktop ให้ลากแผ่น CD ที่ Mount อยู่ลงถังขยะ หรือ..
• กดปุ่ม Eject บนคีบอร์ดค้างเอาไว้สักครู่นึงครับ

การ Import เพลงจาก CD พร้อมชื่อเพลงที่ถูกต้อง

ปรกติถ้าเราใส่แผ่น CD เพลงเพื่อการ Import จะขึ้นชื่อแผ่นเป็น Audio CD และเพลงแต่ละเพลงจะไม่มีชื่อ (แทนด้วย Track 01.. 02..03 ..) เหมือนภาพจากขั้นตอนด้านบน

ถ้าเราต้องการ Import เพลงพร้อมชื่อเพลงที่ถูกต้องจากแผ่นเลย เราสามารถทำได้ครับ ที่เราต้องทำคือ

1.ต่อ Internet เอาไว้ด้วย ระหว่างที่ใส่แผ่น CD อยู่ในเครื่อง
2.ใน iTunes ให้ไปที่เมนูบาร์ เลือก Advance / Get CD Track Names

3.รอสักครู่ จะมีหน้าต่างใหม่ขึ้นมาถามว่าเราต้องการจะใช้ชื่อเพลงจากข้อมูลไหนบ้าง เพราะบางครั้งอาจจะมีชื่อเพลงให้เลือกมากกว่า 1 ภาษาครับ.. จากตัวอย่างมีชื่อเพลงจีนให้เลือกด้วย

ให้เลือกชื่อเพลงที่เราต้องการ แล้วเลือก OK จากนั้น เราจะเห็นชื่อเพลงใหม่ที่มีอยู่ใน CD ของเราบน iTunes เป็นชื่อเพลงที่ถูกต้องแล้วครับ รวมทั้งชื่อ CD ตรงส่วนของ Devices ก็จะเปลี่ยนจาก Audio CD เป็นชื่ออัลบั้มที่ถูกต้องด้วยแล้วเหมือนกัน

จากตรงนี้ ค่อยเลือกกด Import CD ครับ ชื่อเพลงรวมทั้งรายละเอียดต่าง ๆ ที่เราเห็นนี้จะถูก Import เข้า Library ทำให้เราไม่ต้องมานั่งไล่เปลี่ยนเองทีหลัง

หลังจาก Import เพลงจาก CD เสร็จแล้ว ก็ให้ Eject แผ่นออกตามวิธีในขั้นตอนด้านบนครับ

note : วิธีนี้ใช้ได้สำหรับเพลงฝรั่งที่มีขายอยู่บน iTunes Store เท่านั้นนะครับ =)

เพิ่มเติม
หลังจากเอาแผ่นออกจากเครื่องแล้ว ถ้าเราต้องการจะย้อนดูอัลบั้มที่เราเพิ่ง Import เข้ามาให้ไปที่ Smart Playlist/ Just Added ครับ

วิธี Burn แผ่นเพลงและวิดีโอจาก iTunes

การ Burn เพลงออกจาก iTunes ลงแผ่นเพื่อนำไปใช้ต่อ สามารถทำได้ตามนี้ครับ

1.ให้สร้าง Playlist ขึ้นมาใหม่สำหรับเพลงที่เราต้องการจะ Burn ลงแผ่น
2.เลือก Playlist ที่เราต้องการจะ Burn จากนั้น

• กดปุ่ม Burn Disc จากมุมขวาล่างของ iTunes

• หรือคลิ๊กขวาที่ชื่อ Playlist (หรือกด Ctrl+Click) แล้วเลือก Burn Playlist to Disc

3.จะมีหน้าต่างใหม่ขึ้นมาถามเราว่า ต้องการจะ Burn แผ่นเพลงแบบไหน

• อธิบาย
• CD Burner : เป็นชื่อไดร์ฟที่จะใช้ในการเขียนแผ่นเพลง จากตัวอย่างเป็นไดร์ฟที่ผมมีในเครื่อง
• Preferred Speed : ความเร็วที่จะใช้ในการเขียนแผ่น ตรงนี้ สำหรับการเขียนแผ่นด้วยความเร็วสูงสุดตลอดนั้น เครื่องเล่นหรือว่าไดร์ฟ CD บางรุ่นจะอ่านไม่ได้ ถ้าต้องการเอาปลอดภัยเป็นหลัก ให้เลือกความเร็วที่ลดลงมาครับ
• Disc Format : รูปแบบ Audio CD แบบต่าง ๆ
  
  • Audio CD : จะเป็นแผ่นเพลงสำหรับเครื่อง CD Player ทั่วไป (ที่ไม่ใช่ Computer) ที่ปรกติจะเก็บได้ 10 กว่าเพลงต่อแผ่น
    
    • Gap Between Songs : เป็นช่องว่างระหว่างเพลงแต่ละเพลง
    • Use Sound Check : จะเป็นการปรับระดับเสียงให้เท่า ๆ กันทั้งแผ่น
    • Include CD Text : ในเครื่องเล่น CD บางรุ่น สามารถที่จะแสดงรายละเอียดของเพลงที่มีอยู่ได้ ให้เลือกตรงนี้ถ้าต้องการแสดงข้อมูลพวกนั้นครับ
      
      • MP 3 CD : จะเป็นแผ่นเพลง MP 3 โดยเฉพาะ สำหรับเล่นบน MP 3 CD Player หรือบน Computer ก็ได้
      • Data CD or DVD : จะเป็นแผ่นเพลง หรือวิดีโอสำหรับเครื่อง Computer สามารถเอาไว้ใช้ Backup ข้อมูลใน Library ครับ
        
        • เกี่ยวกับการ Burn แผ่นบน iTunes

1. ระหว่าง Burn แผ่น ถ้าเพลงใน Playlist มีมากกว่าความจุของแผ่น iTunes จะ Burn แผ่นแรกให้เต็มก่อน แล้วค่อย burn เพลงที่เหลือต่อในแผ่นต่อไป
2. ถ้าใน Playlist มีไฟล์เสียงที่มีการ mark แต่ละ chapter เอาไว้ แต่ละช่วง mark นั้นจะถูก burn แยก track กัน
3. ถ้าเรา cancel ระหว่างที่ burn แผ่นอยู่ ถ้าเราใช้แผ่นแบบ CD-R เราจะไม่สามารถ burn ทับลงไปใหม่ได้
4. ถ้าใน Playlist มีเพลงที่เราซื้อมาจาก iTunes Store เราสามารถ Burn แผ่นได้ไม่เกิน 7 ครั้ง
5. หนังที่ซื้อมาจาก iTunes Store จะไม่สามารถ burn ลงแผ่นเพื่อเอาไปเล่นใน DVD Player หรือว่า Video CD ได้
6. ในการ burn แผ่น MP 3 ถ้าใน Playlist มีเพลงที่มี format อื่นที่ไม่ใช่ mp3 เพลงพวกนั้นจะไม่ถูก burn ลงไปด้วย (จะ burn เฉพาะเพลงที่เป็น mp3 เท่านั้น)
7. ถ้าเราต้องการ burn แผ่นจาก External CD, DVD drive ให้ทำการตรวจสอบก่อนว่าสามารถใช้งานร่วมกัน iTunes ได้หรือไม่ โดยบน iTunes ให้ไปที่ Preferences/ Advanced/ Burning แล้วดูว่ามีชื่อ drive ที่เราใช้แสดงอยู่หรือไม่ ถ้ามี แสดงว่าสามารถใช้ burn แผ่นบน iTunes ได้

Playlist : การใช้งาน Playlist

Playlist : เป็นรายการเพลงที่เรานำมารวมกันเอาไว้เล่นต่อกันเป็นชุด ๆ ครับ ซึ่งใน 1 playlist จะมีกี่เพลงก็ได้ตามที่เราต้องการ เป็นการสร้างโดยเรากำหนดเองทุกอย่างครับ =)

หลักการทำงาน

เวลาที่เราสร้าง Playlist เพื่อรวมเพลงใน iTunes นั้น เพลงต่าง ๆ ที่ถูกดึงเข้ามาแสดงผลใน playlist จะเป็นคล้าย ๆ กับการสร้างร่างทรงของเพลงต้นฉบับจากใน iTunes Library ขึ้นมาอีกทีนึงนะครับ และนี่คือสิ่งที่เราทำได้บน Playlist ครับ

• เราสามารถที่จะลบ หรือว่าเพิ่มเพลงลงใน playlist ของเราได้แบบไม่จำกัด โดยที่ไม่เป็นการสร้างเพลงซ้ำซ้อนขึ้นม เพราะว่าเพลงต้นฉบับจริง ๆ จะยังอยู่เหมือนเดิมใน Library ครับ
• ถ้าเราลบเพลงออกจาก playlist เพลงต้นฉบับจะยังคงอยู่ใน Library ครับ ถ้าเราต้องการลบเพลงต้นฉบับออกด้วยตอนที่เราลบเพลงบน playlist ให้กด Option ค้างเอาไว้ตอนลบ
• เพลงเดียวกัน สามารถอยู่ได้ในหลาย playlist โดยที่ไม่มีการสร้างเพลงซ้ำซ้อนขึ้นเหมือนกับข้อด้านบนครับ
• เพลงใน Playlist สามารถที่จะนำไป burn แผ่นเอาไว้เล่นที่อื่นได้อีกครับ (ดู การ burn แผ่นเพลงจาก iTunes ประกอบ)
• เราสามารถ sync playlist ต่าง ๆ เข้าไปฟังบน iPod, iPhone ได้เหมือนบน iTunes ครับ (ดู หลักการทำงานของ iTunes + iPod, iPhone ประกอบ)

วิธีสร้าง Playlist ใหม่

1.ใน iTunes ไปที่เมนูบาร์ เลือก File/ New Playlist หรือกด Command+N

หรือว่าไปที่ปุ่มเครื่องหมาย + ที่ด้านล่างซ้ายของ iTunes ครับ

2.จะมี Playlist ใหม่ขึ้นมาทางด้านซ้ายมือ ให้เราตั้งชื่อตามที่เราต้องการ

3.ให้เลือกไปที่ Library/ Music แล้วลากเพลงที่เราต้องการจากใน Library มาใส่ใน Playlist ทางด้านซ้ายมือครับ

จากนั้นเราก็ได้ Playlist เตรีิยมเอาไว้ฟังแล้วครับ =)

Smart Playlist : การใช้งาน Smart Playlist บน iTunes

Smart Playlist : เป็นการสร้าง Playlist ใหม่ขึ้นมาจากเงื่อนไขที่เรากำหนดเอาไว้ จะกำหนดเงื่อนไขเดียว หรือหลายเงื่อนไขซ้อนกันก็ได้ และส่วนใหญ่แล้วเราสามารถ update แบบอัตโนมัติตามระยะเวลาที่ผ่านไปได้ ถ้าเกิดมีเพลงที่เข้าเงื่อนไขที่กำหนดเพิ่มขึ้น หรือลดลง =)

การสร้าง Smart Playlist

1.บน iTunes ไปที่เมนูบาร์ เลือก File / New Smart Playlist หรือว่ากด Option+Command+N

2.จะมีหน้าต่างใหม่ขึ้นมา ให้เราตั้งเงื่อนไขสำหรับ Smart Playlist ใหม่นี้

ให้กำหนดเงื่อนไขที่เราต้องการลงไป จากนั้นกด OK (ดูรายละเอียดการสร้างเงื่อนไขจากหัวข้อด้านล่างต่อไปประกอบ)

3.หลังจากกด OK แล้ว จะมี Smart Playlist ใหม่แสดงขึ้นมาในรายการทางด้านซ้ายมือ ตรงนี้ให้เรากำหนดชื่อของ Smart Playlist นี้เป็นอันจบกระบวนการครับ

อธิบายการสร้างเงื่อนไขสำหรับ Smart Playlist

Match the following rule : จะเป็นการกำหนดให้ผลลัพท์ที่ได้เป็นไปตามเงื่อนไขที่เรากำหนดเท่านั้น โดยทั่วไป ถ้าเราสร้างเงื่อนไขแค่ชั้นเดียว จะมีตัวเลือกเป็นแบบนี้

แต่ถ้าเรามีเงื่อนไขมากกว่า 1 อัน จะขึ้นเป็นแบบนี้ครับ

ซึ่งเราสามารถคลิ๊กเลือกเปลี่ยนเงื่อนไขตรงนี้ได้

• All : คือผลลัพท์ที่ได้จะเข้าเงื่อนไขทุกข้อ หรือว่าทั้งหมดที่เราสร้างเอาไว้เท่านั้น (ยิ่งมีเงื่อนไขซ้อนกันเยอะ ผลลัพท์ที่ได้ก็จะยิ่งน้อยลงครับ)
• Any : ผลลัพท์ที่ได้ จะเข้าเงื่อนไขไม่ทุกข้อก็ได้ (ยิ่งมีเงื่อนไขซ้อนกันหลาย ๆ อัน ผลที่ได้จะมากขึ้นเรื่อย ๆ )

note : ถ้าเราไม่เลือก Match the following rule นี้ ผลลัพท์ที่ได้จะไปอ้างอิงจากหัวข้อ Litmit to แทนครับ (ดูหัวเกี่ยวกับ Limit to ด้านล่างประกอบ)

เกี่ยวกับการสร้างเงื่อนไข

1.จะเป็นการกำหนดเงื่อนไขแรก ที่จะตั้งจากส่วนประกอบของไฟล์ที่เราต้องการครับ เมื่อคลิ๊กเข้าไป จะเป็นส่วนประกอบของไฟล์นั้น ๆ ดู หัวข้อต่าง ๆ ที่สามารถเลือกได้จาก List view ประกอบความเข้าใจตรงนี้นะครับ

2.เป็นเงื่อนไขย่อยที่เมื่อกดเข้าไปจะมีให้เลือกเพิ่มเติม

• contains : คือประกอบด้วย เช่น กำหนดชื่อศิลปินที่มีคำว่า John อยู่ในชื่อ เราจะได้ John lennon, John Mayer หรือว่า John อื่น ๆ อีก
• does not contain : ไม่ประกอบด้วย เช่น กำหนดให้ไม่มีเพลงของศิลปินชื่อว่า john อยู่ในชื่อ
• is : เป็น (คืำการกำหนดชื่อเฉพาะลงไป ซึ่งผลลัพท์ที่ได้จะมีคำ ๆ นี้เท่านั้น)
• is not : ไม่เป็น (คือการกำหนดชื่อสำหรับยกเว้นโดยเฉพาะ)
• starts with : เริ่มด้วยคำว่า...
• ends with : ลงท้ายด้วยคำว่า...

        3.เป็นคำเฉพาะที่เรากรอกลงไป เช่น ถ้าผมต้องการสร้าง Smart Playlist ใหม่เฉพาะของศิลปินที่ผมต้องการ ผมก็กรอกชื่อศิลปินลงไปตรงนี้ครับ

        4.ถ้าเราต้องการมากกว่า 1 เงื่อนไข เราสามารถกดปุ่ม + เพื่อซ้อนเงื่อนไขเข้าไปอีกได้ และในทางกลับกัน ถ้ามีมากกว่า 1 เงื่อนไขแล้วต้องการเอาออก ให้กดเครื่องหาย - ครับ

ห้วข้อ Limit to

Limit to : เป็นการจำกัดผลลัพท์ที่ได้บนเงื่อนไขประกอบย่อย ๆ อีกชั้นนึงครับ

อธิบาย
เราสามารถกำหนดตัวเลขเข้าไปได้ตรงส่วนนี้ครับ ว่าจะให้เป็นจำนวนเท่าไหร่ ซึ่งจะมีหน่วยตามหัวข้อด้านล่างนี้ครับ

1.เป็นหน่วยของจำนวนที่เรากำหนด เมื่อเลือกตัวนี้จะมีตัวเลือกย่อย ๆ ขึ้นมาอีก

• minutes : หน่วยเป็นนาที
• hours : หน่วยเป็นชั่วโมง
• MB : หน่วยของขนาดไฟล์เป็น MegaByte
• GB : หน่วยของขนาดไฟล์เป็น GigaByte
• items : จำนวนเพลง

เอาไว้กำหนดเช่นว่า ต้องการให้ผลลัพท์ของเพลงที่ได้รวมกันขนาดไม่เกิน 700 MB เพื่อสามารถ burn ลงแผ่น CD ได้ ทำนองนี้ก็ได้นะครับ =)

2.seleted by : เป็นการกำหนดขอบเขตการค้นหาเพื่อให้ได้ผลลัพท์ครับ เมื่อคลิ๊กเข้าไปแล้ว จะมีตัวเลือกขึ้นมาอีกดังนี้

• random : การเลือกแบบสุ่มไม่เฉพาะเจาะจง
• album : เลือกจากอัลบั้ม (ตามลำดับตัวอักษร - แต่เท่าที่ผมลองคือมีผลลัพท์ไม่เรียงตามอักษรครับ ไม่รู้ทำไม)
• artist : เลือกจากชื่อศิลปินแบบเรียงตามตัวอักษร
• genre : เลือกจากแนวเพลง เรียงตามตัวอักษรเหมือนกัน
• name : เลือกจาก media ทั้งหมด เรียงตามตัวอักษร
• highest rating : เลือกจากเรทติ้งสูงที่สุดก่อน
• lowest rating : เลือกจากเรทติ้งต่ำที่สุดก่อน
• most recently played : เลือกจาก media ทั้งหมดที่เราเพิ่งเล่นเมื่อเร็ว ๆ นี้
• least recently played : เลือกจาก media ทั้งหมดที่เราไม่ค่อยได้เล่นเมื่อเร็ว ๆ นี้
• most often played : เลือกจาก media ที่เราเล่นบ่อยที่สุด
• least often play : เลือกจาก media ที่เราเล่นน้อยที่สุด
• most recently added : เลือกจาก media ที่เราเพิ่งเพิ่มเข้า iTunes ล่าสุด
• least recently added : เลือกจาก media ที่เราเอาเข้า iTunes แบบนานที่สุด (เก่าที่สุด)

หัวข้อ Match only checked items และ Live updating

• Match only checked items : เลือกให้จำกัดผลลัพท์เฉพาะเพลงหรือ media ใน iTunes ที่เราติ๊กถูกเอาไว้ตรงชื่อเท่านั้น
• Live updating : เป็นการเลือกให้ update Smart Playlist นี้แบบอัตโนมัติในกรณีที่ถ้าเกิดต่อไปมีเพลง หรือ media อื่น ๆ ที่เข้าเงื่อนไข ก็จะเอามาอยู่ในผลลัพท์ให้ด้วยเลย โดยที่เราไม่ต้องสร้าง Smart Playlist ใหม่ครับ

Podcast 1 : เกี่ยวกับ Podcast และการสมัครรับ Podcast บน iTunes

Podcast : เป็นรายการภาพ / เสียงแบบดิจิตอลที่เราสามารถโหลดมาเก็บเอาไว้ดู / ฟัง เมื่อไหร่ก็ได้

Podcast ต่างกับรายการวิทยุหรือว่า Video online ตรงที่

• เราสามารถโหลดเก็บเอาไว้ฟัง / ดู ตอนไหนก็ได้ที่เราสะดวก
• update ที่เครื่องเราเองตามที่เรา subscribe เอาไว้ (ตั้งได้จากใน iTunes ว่าจะให้อัพเดทเป็นรายชม. รายวัน หรือรายสัปดาห์)
• ไม่จำเป็นต้องต่อ internet ตลอดเวลา เพราะจะเป็นการโหลดไฟล์ทั่งไฟล์เข้ามาในเครื่อง
• สามารถ sync กับ iPod, iPhone เพื่อนำไปฟังนอกสถานที่ได้

วิธีการสมัครรับ podcast มาไว้ในเครื่อง (Subscribe)
โดยส่วนใหญ่แล้ว เราสามารถเข้าไปเลือก subscribe (หรือว่าสมัครสมาชิก) รายการ Podcast ได้จาก

• ใน iTunes Store ส่วนของ Podcasts ครับ
• website ของผู้จัดทำรายการ podcastนั้น ๆ

Subscribe รายการ Podcast บน iTunes Store

บน iTunes

1. เลือก iTunes Store แล้ว
2. เลือกหัวข้อ Podcasts จากเมนูทางด้านซ้ายมือ
3. จากนั้นเลือกรายการ podcast ที่ตัวเองสนใจ

เมื่อเราเลือกรายการ podcast ที่น่าสนใจจากในหน้ารวมแล้ว เราจะถูกพาเข้ามายังหน้าของรายการ podcast นั้น ๆ เพื่อทำการ subscribe ครับ

อธิบาย

1. ปุ่ม Subscribe (สมัครรับ podcast) กดตรงนี้เพื่อสมัครรับ podcast โหลดมาไว้ใน iTunes ของเรา
2. รายละเอียดของรายการคร่าว ๆ
3. สำหรับการโหลด podcast มาฟังแบบเป็นตอน ๆ สามารถกดเลือกได้จากตรงนี้ (หรือจะกด play บน iTunes เพื่อฟังเลยก็ได้ แต่โหลดมาเก็บไว้ดีกว่าครับ) ปรกติผมเอาไว้ทดลองฟังรายการบางตอนก่อนที่จะ subscribe podcast นั้น ๆ ครับ
4. รายการ podcast ทำนองเดียวกับที่เราดูอยู่

เพิ่มเติม การ Subscribe Podcast บน iTunes Store
ถ้าใครหารายการที่ต้องการใน iTunes Store ไม่เจอ ก็จะลองใช้ช่อง Search บน iTunes หลังจากที่เข้า iTunes Store มาแล้วก็ได้ครับ

อธิบาย

1. ใส่คำค้นหาที่ต้องการ จะเป็นแนวรายการที่เกี่ยวข้อง หรืออะไรก็ได้ครับ จากนั้นกด Enter
2. หลังจากการค้นหาแล้ว เราจะได้ผลลัพท์ที่เกี่ยวข้องในหลาย ๆ ส่วนบน iTunes Store มา ให้เลื่อนลงมาดูผลการค้นหาเฉพาะในห้วข้อของรายการ Podcasts ครับ
3. ถ้าใครไม่อยากเข้าไปดูรายละเอียด ก็สามารถกด Subscribe ได้จากตรงนี้เลย
4. กดที่ Artwork เพื่อเข้าไปดูรายละเอียดต่าง ๆ พร้อมรายการ podcast เป็นตอน ให้โหลดได้(หลังจากเข้าไปแล้วจะมีหน้าตาเหมือนกับขั้นตอนด้านบนครับ)

การ Subscribe จากบน website อื่น ๆ นอกเหนือจากบน iTunes Store
บางรายการ podcast เราสามารถที่จะ Subscribe ได้เลยจาก website ต้นทางของรายการนั้น ๆ ครับ

ที่เราต้องทำคือ หา URL ของรายการ Podcast ที่ต้องการ แล้วนำมาใส่บน iTunes บนเมนู Advance / Subscribe to Podcast ครับ

แล้วจะมีหน้าต่างใหม่ขึ้นมา ให้เราแป่ะ URL ของ Podcast ที่เราต้องการลงไป แล้วกด OK ครับ

note : URL ที่ใช้ได้สำหรับการ Subscribe รายการ Podcast ส่วนใหญ่จะได้มาจาก website ของรายการนั้น ๆ ครับ

iTunes : ฟังเพลงออนไลน์ ความสามารถดี ๆ ที่ซ่อนอยู่บน iTunes

ปรกติผมไม่ค่อยได้ใช้คำสั่งนี้บน iTunes เท่าไหร่ แต่มีเรื่องให้ต้องพูดถึงเลยทำให้ลองรื้อวิธีฟังเพลงออนไลน์ผ่าน iTunes เลยคิดว่าเขียนเก็บเอาไว้ดีกว่า เผื่อสมาชิกท่านอื่นจะได้ลองใช้ดูเอาไว้ค้นพบเพลงใหม่ ๆ ได้อีกทางนึงครับ =)

ใน iTunes มีความสามารถในการเล่นเพลงจาก Internet Radio ด้วยนะครับ นับจนปัจจุบันที่ผมเขียนก็มีอยู่เก้าร้อยกว่าสถานี โดยที่เมนูนี้จะอยู่ทางด้านซ้ายมือ ในหัวข้อ library ใต้ Applications ครับ

เมื่อคลิ๊กเข้าไปดู เราจะเห็น Internet Radio หลากหลายสถานีแบ่งแยกตามแนวเพลงเอาไว้ให้เราแล้ว บางสถานทีมีหลาย bitrate ให้เราเลือก ตามแต่ความเร็ว internet ที่เราใช้ด้วยนะครับ ลองเลือกฟังกันดู ซึ่งผมคิดว่าเก๋ดี ในการที่ค้นพบเพลงใหม่ ๆ หรือต้องการเปิดเพลงแบบสุ่มไปเรื่อย ๆ เป็นเพลงจากแหล่งอื่นบ้างนอก library ของเราครับ =)

happy listening ครับ

iTunes Store : วิธีสมัคร Account ใหม่บน iTunes Store (Thailand) ครับ

วิธีสมัครใช้งาน iTunes Account
note : ก่อนสมัคร เราจะต้องจะมีบัตรเครดิทจากธนาคารก่อนนะครับ จะเป็น Visa หรือ MasterCard ก็ได้

1.ใน iTunes ไปที่ iTunes Store

2.เลื่อนลงมาด้านล่างสุด ดูว่าเป็น Thailand หรือไม่

ถ้าเป็นประเทศอื่นอยู่ ก็ให้เปลี่ยนมาเป็นประเทศไทยครับ

3.เลือก Sign in จากทางด้านมุมขวาบน (ใต้ช่อง Search)

4.มีหน้าต่างถามเราว่าจะ login ด้วยวิธีไหน

ให้เลือก Create New Account ครับ

5.เข้าสู่ขั้นตอนการสมัครเปิด Account ใหม่กับ iTunes Store (Thailand) แล้วครับ
โดยจะมีขั้นตอนและวิธีการเป็นภาษาไทยบอก ก็ให้ทำตามไปเรื่อย ๆ ครับ

เพิ่มเติม
บัครเครดิทจะใช้เพื่อยืนยันการเปิด Account ใหม่และเอาไว้สำหรับตัดบัญชีในการสั่งซื้อโปรแกรมจาก iTunes Store(Thailand) นะครับ ถ้าใครโหลดเฉพาะโปรแกรมฟรี กับเอาไว้แค่ใช้งาน Genius ก็จะไม่มีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นมาตรงนี้ครับ

การจัดการ Album Artwork กับเพลงใน iTunes

Album Artwork คือ?
Album Artwork หรือว่าปก CD, DVD แบบดิจิตอลบน iTunes ครับ เอาไว้แสดงเวลาที่เราเล่น/เลือก media นั้นอยู่บน iTunes จะแสดงในมุมซ้ายล่างแบบนี้ (ถ้าใน iTunes ไม่แสดงตรงนี้มาให้ ให้กดปุ่มในวงกลมสีแดงตามภาพประกอบด้านล่างนี้ครับ)

Artwork ยังเอาไว้ใช้แสดงตอนค้นหาเพลงในแบบ CoverFlow อีกด้วย (ทั้งบน iTunes และบน iPod, iPhone ครับ)

ปรกติ Album Artwork ที่สามารถนำมาใส่ได้จะมาจาก

• ไฟล์ภาพทั่วไป ที่เราทำเองหรือว่าปก CD ที่เรา scan เก็บเอาไว้ โดยมีขนาดที่ 300x300 pixel ที่ไม่น่าจะเกิน 50 KB ต่อไฟล์ครับ จะใหญ่ - เล็กกว่านี้ก็ได้ แต่ขนาดนี้กำลังดีทั้งการดูใน iTunes บนเครื่องและบน iPod, iPhone ครับ โดยไฟล์ภาพนี้ คือ image file ทั่วไปครับ เป็น jpg หรือว่า png ก็ได้ (เป็น jpg จะได้ไฟล์ที่ขนาดเล็กกว่า)

เพลงฝรั่ง

• iTunes Store
• Amazone.com หรือเวปขาย MP3 อื่น ๆ บน Internet ครับ แต่บน Amazon.com จะมีให้เลือกค่อนข้างจะเยอะมากกกกก
• เวปเพลงทั่วไปบน Internet ครับ

เพลงไทย

• เวปไทยที่ CoverShare.com ครับ เป็นแหล่งรวมปกเพลงไทยเก่า ๆ ที่หาได้ยาก นำมา scan แล้วแลกเปลี่ยนกันโดยคนไทยครับ =)

การใส่ Album Artwork ให้กับ media หรือว่าเพลงบน iTunes
ตัวอย่างการใส่ Album Artwork หรือว่าปก CD ให้กับเพลง หรือว่าอัลบั้มเพลงที่เราต้องการจากปกเพลงใน internet ทำได้ดังนี้

อธิบาย

1. ใน iTunes เลือกเพลงที่เราต้องการจะใส่ Album Artworks โดยจะเลือกเพลงเดียวหรือว่าหลายเพลง หรือทั้งอัลบั้มที่มีก็ได้
2. ใน Safari (ในตัวอย่างเป็นจากเวป amazon.com) แล้วเลือกภาพปก CD ที่เราต้องการ
3. ลากภาพจากใน Safari มาไว้บน iTunes ตรงบริเวณ Album Artwork

note :

1. สำหรับคนที่ทำไฟล์ภาพเอง หรือว่า Scan เอาไว้แล้ว ก็สามารถลากจาก Finder เข้า iTunes ได้แบบเดียวกันนี้ครับ =)
2. ถ้าคุณมี iTunes Account อยู่แล้ว สามารถทำตรงนี้ได้โดยอัตโนมัติ โดยใน iTunes ไปที่ Advance / Get Album Artwork ครับ

หน้าต่างแสดง Album Artwork ในมุมซ้ายล่างของ iTunes

อธิบาย

• ตรงลูกศรชี้ จะแสดงว่าในเพลงที่เราเลือก หรือว่าฟังอยู่ มี Album Artwork มากกว่า 1 ชิ้นอยู่อีก เราสามารถกดไล่ดูได้จากตรงนี้ครับ
• ปุ่มในวงกลม จะเป็นการเปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลตรงนี้ มีให้เลือกระหว่าง
  
  • แสดง Artwork สำหรับ media ที่เลือกอยู่ (Selected Item) หรือว่า
  • จะแสดง Artwork กับ media ที่เล่นอยู่ตอนนั้น (Now Playing)
  • วิธีจัดการกับ Album Artwork

ถ้าเราต้องการจะเปลี่ยนปก CD ไปเป็นภาพอื่น หรือว่าต้องการให้แต่ละเพลงในอัลบั้มแสดง Artwork ไม่เหมือนกัน เราสามารถทำได้ตามนี้ครับ

1. เลือกเพลงที่เราต้องการปรับเปลี่ยน Album Artwork จากใน list (ต้องเลือกเพลงเดียว)
2. คลิ๊กขวา (หรือว่ากด Ctrl+Click) แล้วเลือก Get Info ของเพลงนั้น
   
   • 
3. จะมีหน้าต่างใหม่แสดงขึ้นมา

อธิบาย

1. ใน info ของเพลงนั้นเลือกไปที่ tab Artwork
2. ปรับเปลี่ยนลำดับ Artwork ที่มี จะเพิ่ม หรือว่าลบ Artwork ที่มีอยู่แล้วก็ได้ (Artwork ที่อยู่ซ้ายสุดจะเป็น Artwork ที่แสดงใน Artwork pane ของ iTunes หรือบน iPod,iPhone เวลาเราฟังเพลงนั้น ๆ ครับ
3. ถ้าเราต้องการเปลี่ยน Artwork สำหรับเพลงหรือ media อื่น ๆ อีก ให้เลือกตรงนี้ Previous จะไปเพลงก่อนหน้า และ Next จะไปเพลงถัดไป
4. หลังจากปรับ Artwork เสร็จหมดแล้วคลิ๊ก OK เพื่อยืนยันครับ =)

หัวข้อต่าง ๆ ที่สามารถเลือกได้จาก List view บน iTunes

ใน List view บน iTunes เราสามารถเลือกกำหนดการแสดงผลของหัวข้อต่าง ๆ ได้ ตามนี้ครับ

มีให้เลือกตามนี้ (อ้างอิงจาก iTunes

• Auto Size Column : เป็นการจัดขนาดให้เหมาะสมอัตโนมัติในหัวข้อที่เราเลือกอยู่ ส่วนมากจะเป็นการขยาย หรือว่าลดขนาดให้พอดีกับข้อมูลทั้งหมด เช่น ถ้าเราปรับในส่วนของ Name (ชื่อเพลง) ถ้าชื่อเพลงยาว ขนาดของหัวข้อ Name ก็จะกว้างตามอักษรสุดท้ายในส่วนข้อชื่อเพลงครับ
• Auto Size All Columns : เป็นการจัดขนาดความกว้างให้เหมาะสมกับการแสดงผลในหัวข้อต่าง ๆ ทั้งหมดที่มีใน List view
• Album : แสดงรายชื่ออัลบั้มของศิลปิน
• Album Artist : แสดงชื่อของศิลปินที่มีอยู่ในอัลบั้มนั้น ๆ ส่วนมากใช้สำหรับอัลบั้มที่มีเพลงจากหลายศิลปิน ทำให้สามารถค้นหาได้ง่ายขึ้น และมีใน iTunes 7 เป็นต้นมา
• Album Rating : แสดงเรทติ้งโดยรวมของทั้งอัลบั้ม (เป็นคนละส่วนกันกับเรทติ้งแบบรายเพลงครับ)
• Artist : ศิลปินของอัลบั้มนั้น ๆ
• Beat Per Minute : จังหวะ Beat ต่อนาที ส่วนใหญ่เอาไว้กำหนดหรือว่าดูความเร็ว - ช้า ของเพลงแบบคร่าว ๆ
• Bit Rate : แสดง Bit Rate (เป็นการเข้ารหัสไฟล์ตอน import เข้า Library ของ iTunes ยิ่ง Bit Rate สูง เพลงที่ได้จะคุณภาพดีขึ้น)
• Category : ส่วนใหญ่แล้วจะใช้กับ media อื่น ๆ ที่ไม่ใช่เพลง เอาไว้ระบุประเภทของ media นั้น ๆ เช่น แนวหนัง แนว podcast ฯลฯ จะนำมาใช้กับเพลงก็ได้ แต่ส่วนใหญ่จะใช้ Genre กับเพลงเป็นหลักเพื่อแยกประเภทอยู่แล้วครับ
• Comment : แสดง media ตาม Comment ที่เราใส่เอาไว้ใน Info
• Composer : ผู้แต่ง ผู้ประพันธ์ หรืออื่น ๆ
• Date Added : วันที่ import เข้า iTunes Library
• Date Modified : วันที่มีการแก้ไข media นั้น ๆ
• Description : แสดงรายละเอียดของ Media อื่น ๆ ที่นอกจากเพลง เช่นบอกรายละเอียดคร่าว ๆ ของรายการ podcast แต่ละตอน เป็นต้น
• Disc Number : ลำดับแผ่น disc ที่เกี่ยวข้อง ส่วนใหญ่จะใช้กับ media พวกหนังที่เป็นตอน ๆ และหลาย ๆ แผ่น
• Episode ID : ลำดับของตอน เอาไว้ใช้สำหรับรายการทีวีหรือ media เป็นตอน ๆ ที่ส่วนใหญ่จะชื่อซ้ำกันเอาไว้แยกลำดับความแตกต่างในแต่ละตอนครับ
• Equalizer : สำหรับแสดง Equalizer ที่เราตั้งเอาไว้ในแต่ละเพลง
• Genre : แนวเพลง หรือว่าประเภทของเพลงครับ เช่น Jazz, Rock, Pop , Blue .. ฯลฯ
• Grouping : ตรงนี้อาจะงง ๆ หน่อย เพราะเดิมทีการใช้ Grouping นี้ถูกออกแบบมาให้เอาไว้รวมเพลงคลาสสิคหลาย ๆ เพลงเข้าเป็นงานชิ้นเดียว ... แต่เราสามารถใช้ Grouping จัดกลุ่มเพลง หรือว่า Tag เพลงตามที่เราต้องการ ได้ จะเป็นแนวเพลงที่เราตั้งขึ้นมาเอง หรือตามที่เราต้องการอื่น ๆ เช่น ค่ายเพลง , การทัวร์คอนเสริ์ทของศิลปิน หรืออะไรต่าง ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกัน และเราไม่สามารถจัดเพลงให้ลงตามหัวข้อที่กำหนดได้ ให้เรามาตั้งเองใน Grouping นี้ (บาง iPod เช่น iPod Touch จะไม่แสดงตรงนี้ ให้อาศัยข้อมูลจาก Grouping ในการสร้าง Smart Playlist อีกทอดนึงครับ) - อ่านเพิ่มเติมจาก iTunes help / Tagging songs for custom sorting and grouping ครับ
• Kind : ประเภทไฟล์ media นั้น ๆ เช่น mp3,mp4, AAC, WAV เป็นต้น
• Last Played : การเล่นเพลง, media ล่าสุด
• Last Skipped : แสดงการข้าม (Skip) media ครั้งล่าสุด (ประมาณว่าฟังเพลงไม่จบแล้วข้ามไปเพลงอื่น
• Play Count : ตัวนับจำนวนครั้งที่เราเล่น media นั้น ๆ จนจบ (จะนับตรงนี้เฉพาะ media ที่เราเล่นจากวินาทีแรก ไปจนวินาทีสุดท้ายครับ)
• Rating : กำหนดเรทติ้งให้กับ media หรือว่าเพลง (เป็นรายตัว ไม่ใช่ Album Rating)
• Release Date : วันเปิดตัว หรือว่าวันจัดจำหน่าย
• Ringtone : เพลงริงโทนสำหรับ iPhone
• Sample Rate : เป็นเรื่องเกี่ยวกับไฟล์เสียงในแบบดิจิตอลล้วน ๆ ครับ จะเป็นการนับ Wave form ที่มีการขึ้นลงใน 1 นาที ที่ส่วนใหญ่แล้วเราจะเห็นตัวเลขประมาณนี้ 44,000 Hz ครับ ยิ่งตัวเลขมาก คุณภาพของไฟล์เพลงก็จะดีตามไปด้วย (และมีขนาดใหญ่ขึ้นด้วย) เพิ่มเติม .. apple บอกเอาไว้ใน help ของ iTunes ว่า เราไม่จำเป็นต้องเข้ารหัสเพลงให้สูงกว่าที่เค้าเป็นมาอยู่แล้วในแผ่นครับ เพลงจะใหญ่เกินจำเป็น
• Season : ใช้กับรายการทีวี เป็นประมาณซีรีย์ชุด ๆ ไป
• Show : รายการทีวีโชว์
• Size : ขนาดไฟล์
• Skipped Count : นับจำนวนครั้งที่เราเล่นข้าม
• Time : ระยะเวลารวมของเพลง หรือ media นั้น ๆ
• Track Number : ลำดับของเพลงในอัลบั้ม
• Year : ปีของ media นั้น ๆ

note : มีหัวข้อ Sort Album, Sort Album Artist, Sort Artist, Sort Composer, Sort Name, Sort Show ที่ผมข้ามไปนะครับ เพราะคิดว่าเราสามารถมาร sort หรือว่าเปลี่ยนลำดับการค้นหาได้จากการคลิ๊กหัวข้อต่าง ๆ ด้านบนอยู่แล้ว และจากที่ลองมา พวกหัวข้อ Sort ต่าง ๆ เหล่านี้ไม่ได้ทำอะไรเป็นพิเศษครับ (หรือว่าผมใช้ไม่เป็นก็ไม่รู้ )

DRM คืออะไรครับ

DRM คืออะไรครับ เคยซื้อเพลง ใน itunes store เป็นแบบ plus เหมือนกันไหมครับ

[Tip] วิธียกเลิกการยัดเพลงลง iTunes และเปิดเล่นเองอัตโนมัติ หลังโหลดมาจาก Safari

Safari Browser สุดไฮโซของชาวแมคเรา ดันทะลึ่งตึงตังฉลาดกว่าที่ใจอยาก
เมื่อ Browser เจ้ากรรม เมื่อเราโหลดไฟล์เพลงมา เมื่อโหลดเสร็จดันฉลาดเกิน จัดการยังเพลงลง iTunes ให้ แถมยังเปิดเล่นให้ฟังเลยอีกตังหาก
วันนี้ได้คำตอบจากคุณ golf037 แห่ง Freemac.net เลยเอามาฝากเผื่อบางท่านที่ยังมือใหม่แบบผม
จะได้จัดการปิดกับฟังก์ชั่นฉลาดๆของ Safari ที่ทำให้ผมหงุดหงิดนี้ได้โดยง่าย

เพียงแค่เข้า
Menu Safari->Preferences->General และเอาเครื่องหมายติ๊กถูกออกจาก Open "Safe" files after downloading ออก
เจ้า Safari ก็จะฉลาดน้อยลงนิดส์นึง และทำให้เราสบายใจมากขึ้น ...ทำไมมันหมูอย่างนี้!

ขอบคุณคุณ golf037 แห่ง Freemac.net สำหรับรูปและวิธีครับ