System Preferences เป็น application สำหรับปรับแต่งส่วนต่าง ๆ ภายใน OS X (คล้าย ๆ กับ Control Panel บน windows pc)
note : ถ้าหัวข้อทางด้านซ้ายมือซ้อนกันหลายบรรทัดและอ่านยาก ให้ดูหัวข้อทางด้านล่างนี้แทนนะครับ เหมือนกัน =)
คำสั่งและส่วนต่าง ๆ ของ System Preferences
System Preferences คือส่วนที่ให้เราทำการปรับแต่งการใช้งาน / การแสดงผลในส่วนต่าง ๆ บนเครื่องเราครับ คล้าย ๆ กับบน Control Panel บน Windows
มีส่วนประกอบหลัก ๆ ดังนี้
Personal : เกี่ยวกับรูปแบบแสดงผลส่วนต่าง ๆ ของเครื่องเรา
Hardware : ปรับแต่ง Hardware ส่วนต่าง ๆ รวมไปการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ต่อพ่วงอื่น ๆ เช่น หน้าจอ, คีบอร์ด, เมาส์, พริ้นเตอร์ ฯลฯ
Internet & Network : การเชื่อมต่อ Network, Internet
System : สร้าง user account และอื่น ๆ เกี่ยวกับระบบของเรา
Other : ปรับแต่งอุปกรณ์ หรือว่าโปรแกรม 3rd party อื่น ๆ ที่เรา install เพิ่มภายหลังได้จากตรงนี้ (จากภาพ ผมใช้งาน tablet เลยมีตรงนี้เพิ่มเข้ามา)
วิธีการตั้งค่าภาษาไทยบน OS X 10.5 - Leopard
ตามปรกติแล้ว หลังจากการที่เราลง osx เสร็จใหม่ ๆ เราจะยังใช้งานภาษาหลักได้เพียงภาษาเดียวเท่านั้น (คือภาษาอังกฤษ หรือภาษาอะไรก็ตามที่เราเลือกเอาไว้ตอนลง os ครั้งแรก) ซึ่งการใช้งานภาษาไทยบน OS X เวอร์ชั่น 10.5 (Leopard) โดยทั่วไปมีขั้นตอนที่ต้องถือว่าง่าย เพียงแค่กดเข้าไปไม่กี่ที่ก็สามารถ ใช้งานภาษาไทยได้แล้ว โดยการ activate ให้ใช้งานภาษาไทยในเครื่องได้นั้น มีขั้นตอนดังต่อไปนี้
ไปที่ System Preference เลือก international
เข้าสู่หน้าต่าง International เลือก Edit List..
เลื่อนลงมาด้านล่าง หาตัวเลือก “ภาษาไทย” จากนั้นกด OK
เราจะเห็นมีรายชื่อภาษาไทยเข้าไปอยู่ใน list แล้ว
เลือก tab ที่ 2 = Formats
ปรับการแสดงผลแบบ พุทธศักราช ในหัวข้อ Dates เลือก Calendar
Calendar : Gregorian - แสดงปี ค.ศ.
Calendar : Buddhist - แสดงปีแบบ พ.ศ.
หัวข้อ Times เลือก Customize เพื่อปรับการแสดงผลเกี่ยวกับเวลา
ลองปรับดูในส่วนต่าง ๆ นะครับ =)
จะให้แสดงผลละเอียดมากน้อยแค่ไหนตั้งได้จากหัวข้อ Show : ครับ .. เอาแบบแสดงกันเป็นวินาทียังได้เลย ซึ่งการแสดงผลตรงนี้จะไปมีผลกับโปรแกรมต่าง ๆ ที่อยู่ภายในเครื่่องครับ (ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าตัวเลขพวกนี้จะไปโผล่ที่ไหนบ้าง แต่โดยส่วนใหญ่เราสามารถที่จะตั้งค่าการแสดงผลตามใจฉันได้จากส่วนต่าง ๆ ของโปรแกรมนั้น ๆ ครับ รวมไปถึงบน menu bar ข้างบนด้วย)
บน Menu bar มีเวลา + วันที่ตามที่เราตั้งเอาไว้แล้ว
เมื่อคลิ๊กเข้าไปในนาฬิการ เราจะเห็นวันที่และรูปแบบการแสดงผลครับ
ซึ่งเราสามารถเลือกดูเวลาได้สองแบบ
สำหรับผู้ที่ไม่ได้อยู่ในประเทศไทย
สามารถตั้งเวลาเป็นคริสตศักราช และหน่วยวัดสากลได้ จากการไปสลับตำแหน่งของค่า default ภาษาของเครื่องเราครับ (คลิ๊กที่ “ภาษาไทย” แล้วลากสลับลงมาได้เลย) ตรงนี้จะเป็นการบอกเครื่องว่า เราจะใช้ภาษาไทยเป็นภาษาที่ 2 เท่านั้นนะ เรื่องหน่วยวัด หรือวันที่ ให้อิงกับภาษาแรก คือภาษาอังกฤษแทน
ต่อมา เราจะมาตั้งค่า shortcut สำหรับสลับภาษาระหว่างการใช้งานในเครื่อง
เข้าสู่การตั้งค่า keyboard shortcut สำหรับการใช้งานภาษาไทย
หลังจากเปลี่ยนปุ่ม shortcut ใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะเห็นว่า ไม่มีเครื่องหมายตกใจมาแจ้งเตือนเราอีก เพราะว่า shortcut ที่เราตั้งใหม่นั้นไม่ไปซ้ำกับของเดิมในระบบครับ ดังนั้น สบายใจได้ครับ =)
หลังจากตั้ง shortcut ของ spotlight เสร็จแล้ว เรามาลองทดสอบกันดู
ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด เวลาเรากดปุ่ม Ctrl + Space bar (หรือ shortcut อื่น ๆ ที่เราตั้งเอาไว้) spotlight จะทำงานครับ
พอ spotlight ทำงานเป็นปรกติแล้ว ก็ถึงเวลาทดสอบการสลับภาษาไทย - อังกฤษ
ปุ่ม shortcut สำหรับเปลี่ยนภาษาของเราคือปุ่มจากในหัวข้อ Input Menu ที่เราเลือกเอาไว้ด้านบนนะครับ คือ
Command + Space Bar : สำหรับการเปลี่ยนไปยังภาษาก่อนหน้าที่เราใช้อยู่
Option + Command + Space Bar : สำหรับเปลี่ยนไปยังภาษาถัดไป
อาจจะดูงง ๆ เล็กน้อยครับ แต่สำหรับเครื่องที่มีอยู่ 2 ภาษา คำสั่งทั้งสองอันจะให้ผลเหมือนกัน คือสลับไปมาระหว่าง Eng - Thai ครับ ดังนั้นเลือกใช้อันใดอันหนึ่งก็ได้
กด Command + Space Bar
มาลองดูกันครับ ตอนนี้ภาษาในเครื่องเราจะเป็นอะไรก็ตามแต่ ถ้าเรากด Command + Space Bar แล้ว เค้าจะต้องเปลี่ยนให้เรา
กด Command (ปุ่มรูปแอปเปิล หรือเครื่องหมายยันต์) พร้อมกับ Space Bar นะครับ
ได้ผลเปลี่ยนเป็นแบบนี้
ขอให้มีความสุขในการใช้งานภาษาไทยบน Leopard นะครับ =)
Tips
การสลับภาษาโดยใช้ Caps Lock คุณ nickoe เขียนเอาไว้ใน blog นี้ครับ
มือใหม่ต้องเจอ : กด Caps Lock เร็วฉันใด เปลี่ยนภาษาเร็วฉันนั้น
การสร้าง account ผู้ใช้งานใหม่ (ในกรณีที่ใช้งานบนเครื่องเดียวกันมากกว่า 1 คน)
ตามปรกติแล้วแต่ละเครื่องจะมี Account ผู้ใช้งานประจำเครื่องอย่างน้อย 1 account เสมอครับ (เหมือนกับบน windows) ถ้าเป็นเครื่องส่วนตัวเราจะไม่ค่อยได้มาตรงส่วนนี้เท่าไหร่ ถ้าเราใช้งานคนเดียวบนเครื่อง account เราก็จะเป็นชื่อของเรา และได้สิทธิ์เป็น admin ให้จัดการทรัพยากรของเครื่องได้ทั้งหมด
แต่สำหรับเครื่องในบริษัท หรือเครื่องที่มีผู้ใช้งานหลายคนร่วมกันนั้น การสร้าง account ให้เหมาะสมกับการใช้งานของแต่ละคนเป็นสิ่งที่สามารถทำได้ (และควรกระทำด้วยครับ เพื่อการบริหารจัดการทรัพยากรภายในเครื่องเราครับ )
โดยเครื่องที่มีมากกว่า 1 account นั้น ปรกติค่า setting ต่าง ๆ ของแต่ละ account จะแยกจากกันได้โดยอิสระ เช่น
เครื่องที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 1 คนขึ้นไป ผู้ที่เป็นเจ้าของเครื่อง หรือ ผู้ใช้งานระดับ admin สามารถสร้าง account ใหม่ขึ้นมาให้กับผู้ใช้แต่ละคนได้ ซึ่งการทำแบบนี้มีข้อดีคือ
ไปที่ System Preference เลือก Accounts
เราจะเห็นหน้าต่างแสดงรายชื่อบัญชีผู้ใช้หรือว่า Account ที่มีอยู่ในเครื่อง
ตรงนี้จะบอกเราว่า ขณะนี้ในเครื่องของเรามี บัญชีผู้ใช้ (account) ของใครอยู่ในเครื่องบ้าง
ให้สังเกตว่ากุญแจที่อยู่ด้านล่างล๊อกอยู่หรือไม่ ถ้าล๊อกอยู่เราจะเข้าไปแก้ไขข้อมูลอะไรไม่ได้ ต้องปลดล๊อกก่อนเท่านั้น การปลดล๊อกทำได้ด้วยการคลิ๊กไปที่ลูกกุญแจครับ
คลิ๊กไปที่ลูกกุญแจเพื่อปลดล๊อก
เมื่อคลิ๊กที่รูปกุญแจแล้ว ระบบจะถาม username กับ password ของเรา ให้กรอกแล้วกด OK ผ่านไป
หมายเหตุ - ขึ้นตอนการเปลี่ยนแปลงอะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับ system หรือว่าไฟล์ของระบบแล้วนั้นส่วนใหญ่ ถ้าเราจะทำการแก้ไข เรามักจะต้องใส่ password ก่อนเสมอ
หลังจากปลดล๊อกแล้ว ทำการเพิ่ม account โดยการกดที่เครื่องหมาย ‘+’ (บวก)
หน้าต่างใหม่ให้กรอกรายละเอียดของ ผู้ใช้งาน/user ใหม่บนเครื่อง
New Account: ชนิตของบัญชีผู้ใช้แบบต่าง ๆ (อธิบายจากรูปถัดไป)
Name: ชื่อประจำตัวของ account นี้ โดยทั่วไปก็เอาชื่อ/ตำแหน่งผู้ใช้งานมาใส่ .. จะเป็นอะไรก็ได้ที่ไม่ทำให้สับสนทีหลัง
Short Name: ชื่อย่อ
Password: ระหัสผ่าน
Verify: ยืนยันระหัสผ่าน
Password Hint: คำถามใบ้ แนะแนวกรณีที่เราลืม password ตั้งอะไรก็ได้ที่เกี่ยวโยงกับ password ที่เราตั้งไว้ จะกรอกตรงนี้เป็นภาษาไทยก็ได้ครับ =)
เลือกประเภท ผู้ใช้งาน/user ใหม่บนเครื่อง
Administrator: ผู้ใช้งานชั้นสูงสุด ที่มีสิทธิ์เพิ่ม ลบ หรือแก้ไขอะไรต่าง ๆ ที่อยู่บนเครื่องได้ทั้งหมด
Standard: ผู้ใช้งานทั่วไป ส่วนใหญ่ไม่มีสิทธิ์จัดการกับไฟล์ของระบบ หรือของผู้ใช้ account อื่น ๆ นอกจากจะใช้งานบนบัญชีตัวเองเท่านั้น
Managed with Parental Controls: เป็น account ที่สามารถกำหนดการใช้งานให้รัดกุมได้ สำหรับผู้ปกครองที่ต้องการกำหนดขอบเขตการใช้งานเครื่องกับลูกหลาน
Sharing Only: คนทั่วไป ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่า การเข้าถึงเฉพาะส่วน public folder หรือที่เปิดแชร์เอาไว้เท่านั้น log in เข้าจากหน้าเครื่องก็ไม่ได้ด้วย
Group: เอาไว้สำหรับกำหนดสิทธิ์ในการแชร์ไฟล์ใหักับกลุ่ม account อื่น ๆ
รูปกุญแจที่เห็นอยู่ด้านหลังช่องกรอก password
คือ Password Assistant
มีเอาไว้สำหรับตรวจสอบความแข็งแรงของ password ที่เราตั้งเอาไว้ พร้อมกับมีข้อแนะนำในรูปแบบต่าง ๆ เช่นพวกการสลับตัวอักษรกับตัวเลข หรือการใช้ตัวเล็กตัวใหญ่สลับกัน....
แต่ขอแนะนำว่า ตั้งอะไรก็ได้ล่ะครับ เอาให้ไม่ลืมและเข้าใจเองได้คนเดียวเป็นพอครับ
กรอกรายละเอียดตามช่องที่ให้มาให้หมด
จากนั้นกดเลือก Create Account เพื่อเป็นการเริ่มสร้าง account ใหม่
หมายเหตุ : จากรูปผมตั้งคำถามนำทาง เวลาลืม password เป็นภาษาไทยครับ หรือถ้าไม่แน่ใจ ก็ใส่ไว้ 2-3 ข้อก็ได้ =)
ถ้าเราตั้ง password กับ verify ไม่เหมือนกัน
จะถูกฟ้องว่าเรากรอก password กับ verify ไม่ตรงกันครับ =P
หลังจากสร้าง account ใหม่สำเร็จแล้ว เราจะกลับมาที่หน้าต่างรายชื่อ account
1.การเปลี่ยนรูปประจำตัว ทำได้ด้วยการคลิ๊กเข้าไปที่ตรงนี้
2.เปลี่ยน password ใหม่
3.เปลี่ยนชื่อประจำเครื่อง/MobileMe ใหม่ (เมื่อเปลี่ยนแล้วรายชื่อทางด้านซ้ายมือจะเปลี่ยนตามครับ)
4.Allow user to administer this computer : กำหนดสิทธิ์ให้ผู้ใช้นี้เป็น admin ของเครื่องได้
Enable Parental Controls : กำหนดสิทธิ์ความคุมการใช้งานเครื่องของ user ในรูปแบบต่าง ๆ
ถ้าเปลี่ยนทุกอย่างเข้าที่เข้าทางแล้ว อย่าลืมกลับมาล๊อกกุญแจกลับเข้าที่เดิม
จะเป็นการป้องการการเปลี่ยนแปลงของข้อมูลจาก user อื่น ๆ บนเครื่อง หรือแม้แต่การเปลี่ยนแปลงโดยตัวเราเอง =)
ถ้าจะแก้ไขอีกคราวหน้า ก็ให้กลับมาปลดล๊อกใหม่ และทำซ้ำแบบเดิมครับ
หมดในส่วนของการสร้าง Account ใหม่แล้วครับ
note : อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ account ได้จาก
http://docs.info.apple.com/article.html?path=Mac/10.5/en/8235.html
การ เปลี่ยนรูปพื้นหลัง Desktop
เราสามารถเปลี่ยนรูปพื้นหลังของ Desktop เราได้โดย
1.ไปที่ System Preferences แล้วเลือก Desktop & Screen Saver
หรือ
2.คลิ๊กขวาบนพื้นที่ว่างบน Desktop ของเราแล้วเลือก Change Desktop Background..
note : ทั้ง 2 วิธีให้ผลเหมือนกันคือเราจะเข้าไปเลือกรูป Desktop ใหม่จากใน System Preferences
คลิ๊กขวาบนพื้นที่ว่างบน Desktop แล้วเลือก Change Desktop Background..
เข้าสู่หน้า System Preferences / Desktop & Screen Saver เพื่อเลือกรูปใหม่
เราจะได้มาหน้าต่างนี้เพื่อเลือกรูปที่ต้องการ ได้จากใน list ทางด้านซ้ายมือ..
สำหรับคนที่มีรูปอยู่ใน iPhoto หรือส่วนอื่น ๆ ของเครื่อง เราสามารถที่จะเข้าไปเลือกรูปจากในนั้นมาใช้ได้นะครับ (จากในตัวอย่างผมไม่มีรูปใน iPhoto เลยไม่มีในรายการทางด้านซ้ายให้เลือกครับ)
note : ถ้าเราไม่ใช้วิธีคลิ๊กขวา สามารถมาตรงนี้โดยไปที่ System Preferences/ Desktop & Screen Saver (จากในรูปแรก) ครับ
ลองเลือกรูปใหม่แล้วกลับออกมาดู Desktop ของเรา
รูปจะเปลี่ยนไปตามที่เราเลือกไว้จากใน System Preferences/ Desktop & Screen Saver ครับ
Tips & Tricks เกี่ยวกับ System Preferences
การเพิ่ม Shortcut ให้กับคำสั่งต่าง ๆ เอง
โดยทั่วไปแล้ว คำสั่งต่าง ๆ ของ แต่ละ application จะมี Shortcut ให้เข้าถึงการใช้งานหลักได้เกือบทุกคำสั่งอยู่แล้ว แต่บางกรณีบางคำสั่งก็จะไม่มี
แล้ว... ถ้าเกิดว่าเราต้องใช้คำสั่งที่ไม่มี shortcut บ่อย ๆ ขึ้นมา เราจะทำอย่างไร? เราสามารถสร้าง Shortcut ให้กับคำสั่งเหล่านี้ได้หรือไม่?
คำตอบของเรื่องนี้คือ เราสามารถสร้าง Shortcut ขึ้นมาใหม่เฉพาะคำสั่งที่เราต้องการได้ครับ
ตัวอย่าง คำสั่งบน Preview/Tools/Adjust Size...
ผมจะขอยกตัวอย่างของคำสั่งบน Preview คือ Adjust Size.. (ปรับขนาดรูป) โดยคำสั่งนี้เดิมทีจะสั่งงานได้ผ่านทางเมนูบาร์ด้านบนเท่านั้น ตามนี้ครับ
เอาล่ะ เรามาเพิ่ม Shortcut ให้คำสั่งนี้กัน
เปิด System Preferences ขึ้นมา
เลือก Keyboard & Mouse
เข้าหน้าต่าง Keyboard & Mouse
เลือกไปที่เครื่องหมาย “+”
ตัวอย่าง คำสั่งบน Preview/Tools/Adjust Size...
note : ถ้าต้องการใช้ Shortcut ใหม่นี้กับทุกโปรแกรม ให้เลือก All Aplications - ซึ่งไม่แนะนำครับ เพราะว่า Shortcut ใหม่นี้อาจจะไปซ้ำกับของเดิมที่มีอยู่แล้วในแต่ละ Application ได้ .. สร้างใหม่ให้เฉพาะกับ Application ที่เราต้องการจริง ๆ จะดีกว่าครับ =D
เราจะได้มาเป็นแบบนี้
เราสามารถแก้ Shortcut ที่ต้องการได้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะพอใจครับ เอาอันที่กดถนัดและเป็นธรรมชาติที่สุดจะเป็นการดี
จากนั้นกด Add เพื่อยืนยัน
กลับมาที่หน้า Keyboard & Mouse
เราจะเห็นว่ามี Shortcut เพิ่มขึ้นมาใหม่สำหรับ Application Preview โดยเฉพาะที่เราเพิ่มไปเมื่อสักครู่โผล่มาให้เห็นแล้ว
note : ตรงลูกศรชี้ ถ้าเกิดเราจะเปลี่ยนใจตั้ง Shortcut ใหม่ เราสามารถแก้ได้เลยจากตรงนี้ครับ กดดับเบิลคลิ๊กไปที่ Shortcut เดิมตรงนี้ล่ะ
จากนั้นให้เราลองเปิด Preview ขึ้นมาครับ
ไปที่ Tools/ Adjust Size...
มี ShortCut ใหม่เพิ่มขึ้นมาแล้ววว ~
จากขึ้นตอนทั้งหมดนี้ เราสามารถตั้ง Shortcut เพิ่มให้กับ Application ต่าง ๆ เองได้ครับ ลองดูนะ
ขอให้สนุกกับการใช้งาน Shortcut ใหม่ครับ ~
สำหรับมือใหม่ใจรัก mac ทุกท่าน เปิดเครื่องมาปั๊ป โอว OS สุดแจ่ม Interface งดงาม