การติดตั้ง OS X Leopard (10.5)

เกี่ยวกับ การ Install และการใช้งาน OS X Leopard เบื้องต้น

การติดตั้ง OSX 10.5- Leopard ตอนที่ 1/2

วิธีการติดตั้ง OS X 10.5 - Leopard

ต่อไปนี้เป็นการแสดงขัั้นตอนการลงโปรแกรม OS X เวอร์ชั่น 10.5 (Leopard)
note : เนื่องจากการ install OS X Leopard เป็นขึ้นตอนที่มีรายละเอียดมากพอสมควร ผมเลยคิดว่าจะแบ่งออกเป็น 2 ตอนจะได้ไม่ยาวเกินไป และเพื่อความรวดเร็วในการโหลดภาพ โดย link ไปยังตอนต่อไปจะอยู่ด้านล่างสุดของหน้านี้ครับ

ภาพประกอบอาจจะไม่ชัดนะครับ ขออภัย

ใส่แผ่น install dvd เข้าไปในเครื่อง

001-install-dialog-1_7.jpg
จะมีตัวเลือกดังนี้

  • Install Mac OS X.app - เป็นการติดตั้ง OS X ลงในเครื่อง
  • DVD or CD Sharing Setup.mpkg - สำหรับ setup การลง OS X ให้กับ Macbook Air
  • Optional Installs - ติดตั้งตัวเลือกอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น xcode, ภาษาต่าง ๆ (สามารถเลือกลงเพิ่มเติมได้ภายหลัง
  • Instructions - คำแนะนำอื่น ๆ

ให้เลือก Install Mac OS X.app เพื่อทำการติดตั้งลงในเครื่อง ถ้ามีหน้าต่างใหม่บอกให้เรา restart ก็ให้เลือก restart ไปนะครับ แล้วเราจะเข้าสู่การ Install

เลือกภาษาในการ Install

003-2_7.jpg

ตรงนี้จะให้เราเลือกภาษาหลักที่จะใช้ต่อไปตลอดการ Install ครับ
เราจะพบกับกล่องข้อความต้อนรับ สำหรับการติดตั้ง OS X

010-1_7.jpg

เราจะเจอกล่องข้อความต้อนรับเราเข้าสู่การติดตั้ง osx ให้กด Continue ผ่านไป

ข้อตกลงการใช้งาน

011-1_7.jpg

เลือกพื้นที่บน hard disk ที่จะทำการติดตั้ง OS X Leopard

R0011137-1_7.jpg

  1. เลือก Options ถ้าต้องการเลือกรูปแบบการ Install OS X Leopard ลงบนเครื่อง (มี 3 แบบให้เลือก - อธิบายในภาพถัดไป)
  2. เลือก hard disk ที่ต้องการจะ install OSX
  3. คลิ๊ก Continue

note : จากภาพผมแบ่ง partition เอาไว้ + กับมี external hdd อีก 2 ตัวต่อเข้้ากับเครื่อง เลยมีให้เลือกเพิ่มขึ้น -- ซึ่งถ้าปรกติเครื่องใหม่ จะเห็น hard disk อยู่ น้อยกว่านี้ อาจจะ 1 -2 hard disk แล้วแต่ว่าจะแบ่ง partition เอาไว้ก่อน install OS X หรือไม่

หน้าต่าง Options

R0011138-1_14.jpg

มีคำสั่งเลือก Install ให้เราเลือก 3 แบบ ดูรายคำอธิบาย เรื่องรูปแบบการ Install OS X Leopard แบบละเอียดได้จาก ใน link เลยครับ =)

เมื่อเลือกได้แล้วกด OK เราจะกลับไปหน้า Select a Destination ในหัวข้อที่แล้ว .. ให้เลือก Hard disk ที่ต้องการจะลง system แล้วจากนั้นกด Continue

หน้าต่างเตรียมสำหรับการติดตั้ง OS X

R0011139-1_7.jpg

ในหน้าต่างนี้ จะเป็นการบอกเราว่าเรากำลังจะติดตั้ง system ใหม่แล้ว

  1. ถ้าเราใช้ MacBook/ MacBook Pro แล้วใช้ไฟจากแบตเตอร๊่เพียงอย่างเดียวอยู่ .. เครื่องจะทำการเตือนให้เราเสียบปลั๊กไฟบ้านเข้ากับ MacBook ของเราด้วย เพราะว่าใช้ระยะเวลานาน เครื่องอาจจะดับไปก่อนการ Install เสร็จสิ้นได้
  2. เลือก Customize เพื่อเข้าไปดูว่า สิ่งที่เรากำลังจะ Install นั้น มีอะไรบ้าง
  3. หลังจากปรับในส่วนของ Customize เรียบร้อยแล้ว ให้เลือก Install เพื่อเป็นการเริ่มต้นติดตั้ง system ใหม่ (ดูภาพถัดไป)

note : เครื่องจะทำการ restart เองหลังจากที่ install เสร็จเรียบร้อยแล้ว

หน้าต่าง Customized บอกเราว่า เราจะ Install อะไรลงไปในเครื่องบ้าง

R0011140_7.jpg

ใครอยากลงอะไรเพิ่มเติม หรือว่าเอาออก ก็สามารถทำได้ในขั้นตอนนี้เลย (ตามปรกติจะถูกเลือกเอาไว้หมด) หรือถ้าอยากจะลงเพิ่มเติมทีหลัง หลังจากลง system ใหม่ไปแล้วก็ได้ ดู Optional Installs บน OS X ได้จากใน link นะครับ

จัดการเสร็จแล้วเลือก Done เพื่อกลับไปหน้าต่างเดิม

ถ้าพร้อมแล้ว ก็เลือก Install ทำการติดตั้ง system ใหม่ได้เลย~

Note : แนะนำว่าเลือกลงทั้งหมดเลยก็ได้ครับ จะได้ไม่ต้องมาติดตั้งใหม่ภายหลัง (ยุ่งยากนะ ผมว่า ไหน ๆ ก็จะ Install system ใหม่แล้ว ก็ Install พวกนี้แถมเข้าไปด้วยก็ประหยัดเวลาดีครับ)

ระบบทำการตรวจสอบแผ่น ว่าพร้อมใช้งานหรือไม่

R0011142_7.jpg

เริ่มเข้าสู่ขั้นตอนการ Install Mac OS X แล้วครับ... แต่ก่อนอื่น ระบบจะทำการตรวจสอบแผ่นที่เราเอามาใช้ก่อนว่าสามารถใช้งานได้ดีหรือไม่ ... (ตามแนวคิดแล้วเป็นเรื่องที่ดี ที่ถ้าตรวจสอบแล้วเจอ error จะได้ไม่ต้องเสียเวลาลง)

แต่...
เค้าใช้เวลาตรวจสอบนานนนนนนนนนนนนนนนนนนนน ไปนิดครับ .. ผมเลยเลือก Skip ข้ามขั้นตอนนี้ไปครับ =P

เข้าหน้ากระบวนการติดตั้ง

R0011143_7.jpg

R0011144_7.jpg

ระหว่างนี้เราก็รอเค้าไปเรื่อย ๆ ครับ จะใช้เวลาประมาณ 40 นาที - 1 ชม. ในขึ้นตอนนี้ครับ =)

แอบสงสัย?

R0011145-1_7.jpg

ผมไม่ทราบว่าเป็นที่ระบบตั้งเอาไว้หรือเปล่า ระหว่างที่ผมลง system ใหม่นี้เจ้าตัว airport นั้นจะถูกเปิดขึ้นมาด้วยเฉยเลย -.-a

ผมเลือกปิดไปจากตรงนี้เลยครับ ฮ่า... ไม่รู้จะมีผลอะไรหรือเปล่า แต่ปิดเอาไว้ก่อนครับ มีความสุข

Install เสร็จแล้วววว ~

R0011146_7.jpg

พอเราติดตั้ง OS X เสร็จไปแล้ว จะมีหน้าต่างนี้ขึ้นมา พร้อมด้วยการนับถอยหลังเตรียม restart เครื่องครับ .. ใครไม่อยากรอให้เค้านับจบ ก็กดปุ่ม Restart เองเลยก็ได้

ตรงนี้จะใช้เวลา restart นานหน่อย แต่อดใจไว้นิดครับ ได้ใช้ system ใหม่ในไม่กี่อึดใจนี้ล่ะ ยิ้มปากกว้าง

ขั้นตอนต่อไป

เนื่องจากการ install OS X Leopard เป็นขึ้นตอนที่มีรายละเอียดมาก ผมเลยคิดว่าจะแบ่งออกเป็น 2 ตอนนะครับ จะได้ไม่ยาวเกินไป และง่ายต่อการโหลดภาพ

ไปที่หัวข้อ Setup การใช้งานครั้งแรก

การติดตั้ง OSX 10.5- Leopard ตอนที่ 2/2 : Setup การใช้งานครั้งแรก

การ SetUp เข้าใช้งาน Mac OS X Leopard ครั้งแรก

หลังจากที่เราติดตั้ง OS X 10.5 Leopard เสร็จเรียบร้อย เครื่องจะทำการ restart เองแล้วเข้าสู่ขั้นก่อนการ SetUp เพื่อใช้งานครั้งแรกเราจะเข้าสู่อนิเมชั่นต้อนรับ

พบกับ อนิเมชั่นต้อนรับงาม ๆ ที่บางคนยังไม่เคยเห็น ยิ้มปากกว้าง

ตรงนี้ไม่มีภาพนะครับ อยากให้ลองดูกันเอง

หน้าต่าง Welcome + setup เลือกประเทศ

020-_1.jpg

ให้เลือกประเทศที่เราอยู่ครับ สำหรับผู้ใช้ในประเทศไทย เลือกติ๊กที่ช่อง Show All แล้วจากนั้นเลือกประเทศ Thailand ... เสร็จแล้วกด Continue ครับ

เลือกคีบอร์ด

R0011149_1.jpg

เลือกเป็น U.S.(อันแรก) ไปก่อนครับ แล้วเราสามารถตั้งค่า ภาษาไทย + การใช้งานคีบอร์ดภาษาไทย ได้ภายหลัง

ต้องการย้ายข้อมูลจากเครื่อง Mac เครื่องเก่าของคุณไหม?

R0011150_1.jpg

เป็นตัวช่วยสำหรับคนที่มีเครื่องหลายเครื่อง มาลง system ใหม่แล้วจะได้ไม่ต้องมานั่งย้ายไฟล์เอง .. เราใช้ตรงนี้ช่วยจัดการให้ได้ครับ มีตัวเลือกดังนี้

  • from another Mac : จากเครื่อง Mac เครื่องอื่น (ต้องใช้สาย Firewire ในการเชื่อมต่อจะดีที่สุดครับ)
  • from abother volume on this Mac : สำหรับย้ายข้อมูลจาก partition อื่น บนเครื่องเดียวกันนี้
  • from a Time Machine Backup : กู้ข้อมูลเดิมมาจากใน Time Machine (ถ้าคุณมีการใช้งาน Time Machine อยู่ก่อนแล้ว ให้เลือกตัวนี้ได้)
  • Do not transfer my information now : ยังไม่ทำการย้ายตอนนี้.. เอาไว้ก่อน ยิ้มปากกว้าง

เลือกเสร็จแล้วกด Continue ครับ

ตัวอย่างการย้ายไฟล์จาก partition อื่นในเครื่องเดียวกัน (ถ้า backup ไว้)

R0011151-1_1.jpg

จากตัวอย่างผมลองเลือกย้ายข้อมูลจาก hard disk ในอีก partition นึงเข้ามาไว้ใน system ใหม่นี้มี 4 หัวข้อที่เกี่ยวข้อง

  • ข้อมูลส่วนตัวจาก user account ของผมใน system เดิม
  • ค่า setting ต่างในในส่วนของ network (น่าจะรวมถึง internet ด้วย)
  • Applications folder - อันนี้ตรงตัวครับ คือแฟ้ม Applications บน system เดิม
  • แฟ้ม กับ ไฟล์ต่าง ๆ ที่ผมสร้างเอาไว้บน system เดิม

R0011152_1.jpg

รอสักแป๊ปนึงให้เค้าทำการคำนวณพื้นที่ของไฟล์ที่ผมจะย้ายทั้งหมดก่อน จากนั้นจะมีปุ่ม Transfer ขึ้นมาให้เลือก

ให้กดปุ่ม Transfer เพิ่มเริ่มขบวนการขนย้ายไฟล์จากที่เก่ามาไว้ใน system ใหม่ครับ..

note : ผมเลือกเอาเฉพาะข้อมูลส่วนตัว User account กับ Network and other setting นะครับ เพราะจะประหยัดเวลากว่าย้ายทั้งหมด (โดยเฉพาะถ้าใครย้าย Applications folder เดิมมาด้วย จะรอนานมากครับ และโปรแกรมอาจจะทำงานได้ไม่สมบูรณ์จากการย้ายมา system ใหม่นี้ด้วย .. สุดท้ายก็ต้องลงใหม่อยู่ดี ผมเลยเลือกข้ามไปครับ)

ส่วนไฟล์กับแฟ้มจาก system เดิมของผมนั้น ไม่ได้เลือกเพราะว่า ผมลง Leopard ในเครื่องเดียวกับ Tiger ครับ แฟ้มหรือว่าไฟล์ต่าง ๆ ของ system เดิมผมก็ยังอยู่ และสามารถเข้าถึงได้โดยตรงจาก Leopard ครับ (เค้าจะมองเห็น Tiger เป็น hard disk อีก partition ที่อยู่ในเครื่อง) =)

จากนั้นก็เริ่มย้าย

R0011154_1.jpg

หน้าต่าง รีจิสเตอร์

R0011155-1_1.jpg

เป็นข้อมูลผู้ใช้ที่จะถูกส่งไปรีจิสเตอร์ผลิตภัณฑ์ของ Apple และนอกจากนั้นยังจะถูกใช้เพื่อสร้างชื่อเราใน Address Book, Mail อีกด้วย ... ดังนั้น กรอกให้หมด แล้วกด Continue ครับ =)

ถามต่ออีกนิดหน่อย

R0011156_1.jpg

เราจะถูกถามต่อว่าใช้เครื่องนี้ที่ไหน และเราทำงานเกี่ยวกับอะไร
และจะมีให้เราเลือกว่าสนใจจะรับข่าวสารล่าสุดจากทาง Apple หรือเปล่า? ถ้าสนใจ ก็เลือกติ๊กลงไป

จากนั้นกด Continue

กด Continue เพื่อส่งข้อมูลไปให้กับทาง Apple แล้วเตรียมเข้าสู่การ set up เครื่อง

R0011157_1.jpg

อาจจะดูงง ๆ แต่เค้าหมายถึงเตรียมที่จะ login เข้าใช้งานเครื่องเราจริง ๆ กันแล้วครับ

หน้าต่างขอบคุณ พร้อมใช้งาน

R0011158-1_1.jpg

คลิ๊ก Go ~

เข้าสู่ Leopard

R0011159-1_1.jpg

note : จากรูปผมย้ายข้อมูล user account ผมจาก system เดิมมาไว้ใน system ใหม่ (ของเดิมผมตั้ง password ตอน login เอาไว้) เลยเจอหน้าต่างนี้ก่อนเข้าเครื่องครับ ให้กรอก password =)

เข้า system ใหม่

desktop_3.jpg

เข้าสู่หน้าต่าง system ใหม่ของเรากันแล้วนะครับ

ยินดีต้อนรับเข้าสู่ OS X Leopard ครับ

การตั้งค่าต่าง ๆ บนเครื่องจากใน system preferences

การตั้งค่าภาษาไทยบน OS X
การปรับแต่ง desktop
การสร้าง user account
อัพเดท software ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด

รูปแบบในการ Install OS X Leopard

รูปแบบในการ Install OS X Leopard

ในการ Install OS X นั้น จะมีรูปแบบการ Install ต่าง ๆ ให้เราเลือกตามความต้องการ และนี่คือคำอธิบายครับ

บนหน้าต่าง Select a Destination

R0011137-2_5.jpg

ระหว่างการ Install Mac OS X Leopard ในหน้าต่าง Select a Destinantion นั้น ถ้าเราเลือก Options เราจะถูกพาเข้ามาให้เลือกรูปแบบของการ Install OS X Leopard ตามนี้

เลือกรูปแบบการ Install OS X Leopard

R0011138-1_13.jpg

มีคำสั่งเลือก Install ให้เราเลือก 3 แบบ มีรายละเอียดดังนี้

1.Install Mac OS X / Upgrade Mac OS X :
หัวข้อแรกมีอยู่ 2 หัวข้อที่จะขึ้นให้เลือกตรงส่วนนี้คือ

  • Install Mac OS X - ในกรณีที่เราไม่มี OS X อยู่ในเครื่องก่อนหน้านี้ เครื่องจะเลือกตรงนี้ให้อัติโนมัติ
  • Upgrade Max OS X - ในกรณีที่มี OS X อยู่ในเครื่องอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว จะเป็นการ Upgrade มาเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดตามแผ่น Install ครับ

2. Archive and Install :
เป็นการลง system ใหม่ โดยที่ก่อน Install ใหม่ เครื่องจะทำการเก็บไฟล์ system เก่า back up ลงเอาไว้ในเครื่องให้ด้วย โดยไฟล์ของ system เก่าจะอยู่ในแฟ้มชื่อ Previous System (ในแฟ้มนี้ จะเก็บโปรแกรมในเครื่องตัวเก่า, พวก font และค่า setting อะไรต่าง ๆ .. ให้เราสามารถเข้าถึงได้ภายหลังจากที่ลง system ใหม่เสร็จแล้วได้ครับ)

หัวข้อนี้จะมีตัวเลือก Preserve Users and Network Settings ถ้าเราไม่เลือกห้วข้อนี้ พวกรายละเอียดต่าง ๆ ที่ถูกบันทึกเอาไว้ใน บัญชีผู้ใช้ ( user account) จะถูกเก็บไว้ในแฟ้ม Previous System ด้วยกันส่วนต่าง ๆ จาก system เก่า

แต่ถ้าเราเลือก Preserve Users and Network Settings พวกรายละเอียดจาก User account จะตามมาติดตั้งให้ใน system ใหม่ให้ด้วยเลยตอน Install

สิ่งที่อยู่ใน user account ที่จะตามมาด้วยตอนลง system ใหม่ถ้าเราติ๊กถูกหน้าหัวข้อ Preserve Users and Network Settings ได้แก่

  • Home folders และรายละเอียดต่าง ๆ
  • Preference settings หน้าตา desktop และการปรับแต่งต่าง ๆใน system preferences
  • ฐานข้อมูลใน Address Book
  • Browser favorites (พวก bookmarks )
  • Network settings and locations การตั้งค่า Internet และอื่น ๆ เกี่ยวกับสถานที่

หัวข้อนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลง system ใหม่ แต่ยังไม่กล้าลงใหม่แบบลบของเก่าทั้ง 100% โดยปรกติแล้ว การ install แบบนี้เราก็จะได้ system ที่เกือบ ๆ จะใหม่หมด 100% เพียงแต่มี setting บางตัวจาก system เดิมตามมาด้วย (ถ้า setting ของเดิมมีปัญหา หรือ setting จากโปรแกรมต่าง ๆ ย้ายมาแล้วมาตีกับ system ใหม่ ... ก็มีแนวโน้มว่า จะมีปัญหาตามมาบน system ใหม่ด้วยครับ ยิ้มปากกว้าง)

note : การลง OS X แบบ Archive and Install นี้ หลังจากติดตั้ง system ใหม่เสร็จเรียบร้อยแล้้ว บางโปรแกรมหลังจากที่ติดมาอยู่บน system ใหม่ด้วยนั้น จะออกอาการ “เอ๋อ” ครับ .. ถ้าเอาชัวร์จริง ๆ ควรจะทำการ Install โปรแกรมเหล่านั้นใหม่อีกรอบ

3. Erase and Install :
เป็นการลง system โดยก่อนที่จะลง system ใหม่นั้น จะทำการล้างข้อมูลที่มีอยู่เดิมออกไปทั้งหมด แล้วจากนั้นจึงค่อย Install Mac OS X

ถ้าคุณแน่ใจว่าได้ back up ข้อมูลในส่วนต่าง ๆเอาไว้ครบถ้วนดีอยู่แล้ว การเลือกหัวข้อนี้ จะเป็นการลง system แบบสะอาดที่สุด (หรือเรียกว่า clean Install) ค่า setting ต่าง ๆ จะกลับไปเริ่มต้นใหม่หมด

เหมาะสำหรับคนที่ต้องการล้าง system ใหม่จริง ๆ หรือว่ามีปัญหากับบางตัวอย่างเรื้อรัง และแก้ไขไม่ได้ด้วย Archive and Install ครับ...

Optional Install

รายละเอียดเกี่ยวกับตัวเลือก Optional Installs ในการติดตั้ง OS X ใช้สำหรับ

  • ติดตั้ง application บางตัวเพิ่มเติม
  • ติดตั้งภาษาเพิ่มเติม
  • ติดตั้ง printer driver เพิ่มเติม

โดย Application ที่สามารถลงได้ใหม่จาก Optional Install มีดังนี้

  • Address Book
  • iCal
  • iChat
  • iTunes
  • Mail
  • Oxford Dictionaties
  • Safari
  • X11

note : ดูขึ้นตอนการใช้ Optional Install แบบละเอียดได้จากการติดตั้ง X11 ในหัวข้อด้านล่างนี้ครับ 

เกี่ยวกับ X11

เกี่ยวกับ X11 บน OS X และการติดตั้ง + Update ครับ

การติดตั้ง X11

การติดตั้ง X11 จากแผ่น Os X Installer ที่เรามี

x11-app_3.jpg        x11-icon-2_3.jpg

X11 คือการแสดงผลหน้าต่างแบบ Bitmap ในคอมพิวเตอร์ระบบ Unix ที่บางแอปพลิเคชั่นยังต้องการทำงานผ่าน X11 นี้อยู่ เราจึงต้องมีเอาไว้ในกรณีที่เราต้องการจะใช้งานแอปพลิเคชั่นเหล่านั้น เช่น Inkscape (www.inkscape.org), Gimp (www.gimp.org) เป็นต้น ส่วนแอปพลิเคชั่นบน Os X ส่วนใหญ่ไม่ต้องการ X11 นี้ครับ

ตามปรกติถ้าการ Install ทั่วไป ก็จะมี X11 มาให้ภายในเครื่องเราครับ แต่ก็ไม่เสมอไปนะ โดยขึ้นอยู่กับ Option ตอนที่เราเลือก Install Os X ครับ =)

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ X11 จาก Wiki Pedia (ข้อมูลเป็นภาษาไทย) จาก Link นี้ครับ
http://th.wikipedia.org/wiki/x_window_system

Note :

  • แอปพลิเคชั่นบน Osx ทั้งจาก Apple เองหรือว่าค่ายอื่น ๆ ส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องทำงานผ่าน X11 ครับ คุณไม่จำเป็นต้องเลือกลงก็ได้ ถ้าไม่ได้ลงมาตั้งแต่ตอน Install ครั้งแรก และไม่ได้ใช้แอปพลิเคชั่นที่เฉพาะเจาะจงว่าต้องการ X11 ในการทำงาน
  • ตัวอย่างแผ่น Installer ที่ผมใช้นี้เป็นแผ่น Os X - Leopard เวอร์ชั่น 10.5.4 แผ่นเดียวครับ เพราะผมซื้อแยกต่างหากทีหลัง ไม่ใช่แผ่นที่มากับเครื่อง (เครื่องเดิมผมเป็น 10.4-Tiger) ถ้าใครมีแผ่น Installer อยู่ 2 แผ่น ที่ปรกติจะแถมกับเครื่อง ให้ใส่แผ่นที่ 1 เข้าไปครับ

ใส่แผ่น Os X Installer Dvd เข้าไปในเครื่อง

ZZ1EE6E2A3_3.jpg

เลือก Optional Installs

เข้าสู่หน้าต่าง Optional Installs

ZZ30CD1971_3.jpg
ดับเบิลคลิ๊กที่ Optional Installs.mpkg

เข้าสู่หน้าต่างเตรียมการลงแอปพลิเคชั่น

003-_4.jpg

ข้อตกลงการใช้งานแอปพลิเคชั่น

004-_4.jpg
เลือก Continue แล้วจะมีหน้าต่างนี้โผล่ขึ้นมา

005-_2.jpg
กด Agree เป็นการยอมรับข้อตกลงผ่านไปครับ

เข้าสู่การเลือกจุดหมายปลายทางที่จะ Install

006-_4.jpg
ปรกติแล้วให้เลือกไปที่ Partition หรือ Hard Disk เดียวกับที่เราลง Leopard นะครับ (จากในรูปผมตั้งชื่อ Hard Disk ที่ผมลง 10.5 เอาไว้ว่า Leopard ครับ มีความสุข)

หน้าต่าง Custom Install

007-_2.jpg
เลือก Applications

Note : เกี่ยวกับ Custom Install เป็นรายการที่อยู่นอกเหนือจากการลงแอปพลิเคชั่นปรกติ ซึ่งเราสามารถเลือกลงเองได้ภายหลัง

  • ในกรณีที่เราต้องการแอปพลิเคชั่นเพิ่มเติมส่วนที่เหลือ เหมือนกับที่เรากำลัง Install X11 อยู่นี้
  • หรือในกรณีที่เราเผลอลบแอปพลิเคชั่นติดเครื่องบางตัวไป เช่น Address Book, Ical, Mail, Ichat .. ฯลฯ (ดูรายการแอปพลิเคชั่นที่เหลือได้จากรูปถัดไปครับ)
  • สำหรับผู้ที่ซื้อเครื่อง แล้วมาพร้อมกับ Ilife’08 สามารถ ลงชุดแอปพลิเคชั่น Ilife’08 ใหม่ได้จากตรงส่วนนี้ด้วยครับ =)

นอกจากแอปพลิเคชั่น หรือ Applications อื่น ๆ แล้ว ยังมี

Ipod Support : แอปพลิเคชั่นสำหรับipod Support - - (จากในคำอธิบายนะครับ ผมไม่รู้จะแปลออกมายังไงเหมือนกัน)
Additional Fonts : ฟ้อนท์เพิ่มเติมในประเทศแถบเอเชียครับ พวกจีน เกาหล๊ ไทย .. ฯลฯ
Language Translations : เพิ่มภาษาหลักให้กับเครื่องในกรณีที่การ Install ตามปรกติไม่มีให้ ตามนี้

add-lang_2.jpg

Printer Driver : ลองไดร์เวอร์เพิ่มเติมของปรินเตอร์รุ่นต่าง ๆ มีรายชื่อตามนี้ครับ

add-print_2.jpg

เลือกทำการติดตั้งเฉพาะ X11

007-1_3.jpg

  1. เลือก Application
  2. แล้วมาติ๊กที่ช่อง X11 เพื่อเตรียมติดตั้ง

Note : สำหรับผู้ที่ซื้อเครื่องแล้วมาพร้อมกับ Ilife’08 สามารถลงแอปพลิเคชั่นจาก Ilife’08 ใหม่ (จะเลือกรายตัวหรือทั้งชุด) ได้จากตรงนี้ด้วย - - จากรูปไม่มีชุดแอปพลิเคชั่น Ilife’08 เพราะว่าเป็นแผ่น 10.5 ที่ไม่ได้มากับเครื่องครับ ผมไปซื้อเอาทีหลัง

008-_4.jpg
จากนั้นเลือก Continue

หน้าต่างสรุปว่าเรากำลังจะ Install อะไรบ้างใช้พื้นที่ทั้งหมดเท่าไหร่ (ในที่นี้คือ X11)

009-_4.jpg

ถามยืนยันอีกครั้งก่อน Install

010-_4.jpg
กรอกชื่อผู้ใช้ กับรหัสผ่านลงไปครับ จากนั้นกด Ok

Note : ปรกติเวลาที่เราไปยุ่งเกี่ยวกับระบบมักจะมีหน้าต่างนี้ถามขึ้นมาทุกครั้ง (รวมถึงการ Install แอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ก็ด้วย)

เข้าสู่สถานะ Install

011-_4.jpg

หน้าต่างแจ้งว่าการ Install ผ่านไปได้ด้วยดีครับ ยิ้มปากกว้าง

012-_4.jpg
เลือก Close ไปเป็นขั้นตอนสุดท้าย

เสร็จแล้ว ก่อนที่จะทำการใช้โปรแกรมอื่น ๆ บน X11เราควรที่จะ update X11 บนเครื่องเราให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด หรือ เสถียรที่สุดก่อนเสมอ

การ update X11 (สำหรับ 10.5)

การ update X11 บน Leopard สำหรับใช้งานโปรแกรม Inkscape/GIMP

ที่มาว่าทำไมเราต้อง update X11 บน OS X 10.5-Leopard ให้เป็น version ล่าสุด

X11 บน OS X 10.5 มีความเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่กับ X11 ที่ได้นำระบบใหม่มาใช้ และจากตรงนี้เอง ในเวอร์ชั่นแรก ๆ ของ Leopard 10.5.0-10.5.1 หรือกว่านั้น X11 ค่อนข้างจะมีปัญหามากเรียกว่าใช้งานแทบไม่ได้เลย จนบางคนต้องเอา X11 จาก 10.4 มาใช้แทนบน 10.5 - - หลังจากนั้นไม่นาน พออัพเดทเป็น 10.5.2 แล้ว X11 จึงเริ่มที่จะใช้งานได้ (ปัญหาน้อยลง)

และจนถึงปัจจุบันที่ผมเขียนบทความนี้อยู่ (10.5.4) ก็ยังมีปัญหาอยู่ครับ เลยอยากขอแนะนำว่า ให้ update X11 ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดก่อน (หรือไม่ก็เป็นเวอร์ชั่นที่เสถียรที่สุด - ดูรายละเอียดได้จาก link ด้านล่างนี้ครับ) ก่อนเสมอ

สามารถเข้าดาวน์โหลด X11-XQuartz เวอร์ชั่นล่าสุดได้ ที่นี่ หรือจาก link นี้ครับ
http://xquartz.macosforge.org/trac/wiki

update : หลังจาก install รอบแรกผ่านไปแล้ว ปรากฎว่าตัว 2.3.0 มีปัญหากับ wacom รุ่นที่ผมใช้อยู่ -.- เลยต้องโหลดตัว 2.2.3 มาลงแทน จึงใช้งานได้ครับ

update: 23 กย. 51 เวอร์ชั่นล่าสุดเป็น 2.3.1 ครับ ใช้งานได้ ไม่ตีกับ wacom แล้ว แต่มีปัญหาเรื่องการสลับภาษาในบางเครื่อง (เครื่องผมด้วย แห่ะ ๆ 2) และจะแก้ในเวอร์ชั่น 2.3.2 ครับ
จาก http://xquartz.macosforge.org/trac/ticket/162#comment:1

update: 10 เมษา 52 เวอร์ชั่น 2.3.2 ออกแล้วครับ และสามารถสลับภาษาระหว่างใช้งานโปรแกรมบน X11 ได้แล้ว ลองเข้าไปโหลดมา update กันดูนะครับ
http://xquartz.macosforge.org/trac/wiki

ดาวน์โหลด X11-XQuartz เวอร์ชั่นล่าสุด

Picture4_20.jpg
เข้าหน้าเวปมา จะเห็นหัวข้อ Latest Release ซึ่งคือเวอร์ชั่นล่าสุดที่เราต้องการ (ตอนที่เขียนบทความอยู่นี้เป็นเวอร์ชั่น 2.3.0 ครับ) ซึ่งก็จะมีรายละเอียดปลีกย่อยถึงความเปลี่ยนแปลงทั้งใน X11 จากการอัพเดท OS X เองมาเทียบให้ดูด้วย ซึ่งตามปรกติแล้ว X11 -XQuartz บนเวปนี้จะอัพเดทเร็วกว่าบน OS X ครับเพราะเป็น open source ไม่ต้องรออัพเดทพร้อมกับ OS

ให้คลิ๊กเข้าไปที่เวอร์ชั่น 2.3.0 (หรืออื่น ๆ ก็ตามที่ออกมาภายหลังและมีมาให้เลือกในส่วนของ Lastest Release ครับ)

Picture5_26.jpg
เราจะถูกพามาหน้าใหม่ พร้อมโหลด แต่สำหรับตอนที่ผมกำลังจะโหลดตัว 2.3.0 มีหัวข้อฟ้องมาดังนี้ครับ

  1. เค้าเตือนว่า มีผู้ใช้หลายคนที่โหลดตัวล่าสุดไปแล้วมีปัญหาเรื่องคีบอร์ดในบางโปรแกรม ถ้าคุณโหลดไปแล้วเจอปัญหาดังกล่าว ให้เปลี่ยนไปลง XQuartz เวอร์ชั่นอื่นแทน (อันที่ผมวงเอาไว้ในกรอบนั่นล่ะครับ)
  2. เป็น link สำหรับโหลดเวอร์ชั่นล่าสุด (2.3.0) มาลงบนเครื่อง (ผมโหลดตัวนี้มาลงครับ ถ้ามีปัญหาผมจะไปโหลดตัวในข้อ 1 มาอีกที มีความสุข

(update : หลังจาก install รอบแรกผ่านไปแล้ว ปรากฎว่าตัว 2.3.0 มีปัญหากับ wacom รุ่นที่ผมใช้อยู่ -.- เลยต้องโหลดตัว 2.2.3 มาลงแทน จึงใช้งานได้ครับ)

จากนั้นเราก็มา install ตัว update นี้กัน

update บน OS X 10.5-Leopard ให้เป็น version ล่าสุด

006-1_1.jpg
ไปที่เราโหลดเค้ามานะครับ จากนั้นดับเบิลคลิ๊กไปที่ X11-2.3.0.pkg ตัวนี้

ขึ้นหน้าต่าง Introduction เตรียมการลงโปรแกรม

Picture1_40.jpg

Read Me รายละเอียดของ update ตัวนี้

ZZ34708B79_1.jpg
note : ตามปรกติแล้วเรากดผ่านไปได้เลย แต่ถ้าเราลงโปรแกรมจากค่ายอิสระ (3rd Party) แล้วหัวข้อตรงนี้เป็นส่ิงที่ไม่ควรมองข้ามนะครับ เพราะจะมีรายละเอียดและเรื่องที่ผู้ใช้ควรจะทราบก่อนการ install ครับ

ข้อตกลงของโปรแกรม

ZZ5A5F1882_1.jpg
กด continue ผ่านไป เราจะได้หน้าต่างยืนยันการลงโปรแกรมนี้มา

ZZ4070E337_1.jpg
กดยืนยัน Agree ครับ

install ลงบน hard disk หลักของเครื่องเรา

ZZ4575EFE5_1.jpg
คลิ๊ก install จะมีหน้าต่างขึ้นเตือนนี้มา
ZZ4A51BDB2_1.jpg
ให้กรอกชื่อผู้ใช้ กับรหัสผ่านของเราลงไปครับ จากนั้นกด OK

หน้าต่างเตือน การปิดโปรแกรม และการ log out ออกจากระบบ

ZZ393775E8_1.jpg
จะมีหน้าต่างเตือนเราว่า การ install update นี้ เมื่อ install เสร็จสิ้น ระบบจะต้องปิดโปรแกรมที่เปิดไว้อยู่ทั้งหมด และจะทำการ logout ออกจากระบบ (เป็นขั้นตอนอัตโนมัติครับ .. ดังนั้นใครเปิดโปรแกรมอะไรค้างไว้อยู่ก็รีบ save แล้วปิดให้หมดก่อนตอนนี้เลยนะครับ มีความสุข)

ถ้าปิดโปรแกรมเรียบร้อยหมดแล้ว เลือก Continue Installation เพื่อทำการติดตั้งจริงต่อไปได้เลย ยิ้มปากกว้าง

ทำการติดตั้งจริง

ZZ635F8827_1.jpg
แจ้งว่าติดตั้งเสร็จเรียบร้อยแล้ว

ZZ6888FA58_1.jpg
เลือก Logout เพื่อออกจากระบบ แล้วทำการ login เข้ามาใหม่เป็นอันเสร็จพิธีการ update X11 บน 10.5 ครับ

เสร็จแล้ว...

จากนั้นเราก็จะมาทำการ install โปรแกรม Inscape หรือ GIMP กันต่อไปได้แล้วครับ