เกี่ยวกับการใช้งาน iPhoto’ 09 ในหัวข้อต่าง ๆ ครับ
แนวทางพื้นฐานทั่วไป สำหรับการใช้งาน iPhoto’ 09
iPhoto เป็นโปรแกรมที่มีรูปแบบการจัดการไฟล์ภาพแบบ ฐานข้อมูล (ดู http://macmuemai.com/content/373 ประกอบ) ที่ช่วยให้เราจัดการภาพถ่ายของเราได้สะดวกมากขึ้นกว่าการจัดการไฟล์ภาพเอง
ตรงนี้สำหรับผู้ใช้งาน windows pc มาก่อน อาจจะยังไม่คุ้นเคยกับการทำงานแบบฐานข้อมูลนี้ ผมแนะนำให้ลองอ่านจาก link ที่ให้ไว้ด้านบนประกอบนะครับ จะได้เห็นภาพมากขึ้น
และนี่เป็น Basic ง่าย ๆ ในการใช้งาน iPhoto ในภาพรวมครับ
iPhoto เอาไว้ทำอะไร?
หลัก ๆ ที่ใช้โดยทั่วไปนะครับ
iPhoto แตกต่างจากโปรแกรมดูภาพอื่น ๆ ที่เคยใช้บน pc อย่างไร?
iPhoto นอกจากจะเอาไว้ดูภาพแล้ว ที่เด่นกว่าโปรแกรมดูภาพทั่วไปคือการจัดเก็บไฟล์ภาพทั้งหมดของเราในฐานข้อมูล หรือว่า database ครับ ตรงนี้ทำให้เราเลือกแสดงผล หรือว่าค้นหาภาพที่เราต้องการได้ง่าย และไม่ต้องทำทั้งหมดเอง เพราะโปรแกรมจะช่วยจัดตรงนี้ให้เรา .. เรามีหน้าที่แค่กำหนดรายละเอียดบางส่วนให้กับภาพตอนที่เอาเข้า iPhoto เท่านั้นครับ
ถ้าจะใช้ iPhoto ในการเก็บภาพเราควรทำอย่างไร?
ถ้าเราเลือกที่จะใช้ iPhoto จัดการกับภาพถ่ายของเราแล้ว เราต้องทำการเอาภาพเข้าฐานข้อมูลของ iPhoto หรือที่เรียกว่า iPhoto Library ด้วยการ import ครับ ทำได้ด้วยวิธีการต่อไปนี้
ต้องการย่อภาพที่มีอยู่ใน iPhoto ทำอย่างไร?
บน iPhoto ภาพทุกภาพที่ถูกนำเข้ามา จะคงขนาดเอาไว้เท่ากับไฟล์ต้นฉบับ ถ้าเราต้องการจะเปลี่ยนขนาด สามารถทำได้ในขั้นตอน Export เพื่อการนำภาพไปใช้ในงานอื่น ๆ ต่อไป
ต้องการย่อภาพไหน ให้เลือกเอาไว้ จากนั้นไปที่ File บนเมนูบาร์ แล้วเลือก Export ครับ จะมีตัวเลือกมาให้เราปรับแต่งขนาดและรายละเอียดต่าง ๆ ที่เราต้องการ
ต้องการปรับแต่งภาพ ทำอย่างไร?
เลือกภาพที่ต้องการปรับ และคลิ๊กที่ปุ่ม Edit จะมี edit panel ขึ้นมา ให้เราปรับแต่ง เมื่อเสร็จแล้วคลิ๊ก done เพื่อเป็นการ save ภาพที่เราปรับ
note : ภาพทุกภาพที่ถูกปรับแต่งใน iPhoto เมื่อเรา save เค้าจะทำการสร้างไฟล์ใหม่ขึ้นมา โดยภาพที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่นี้ จะกินพื้นที่ไม่มากครับ ทำให้เราสามารถที่จะย้อนกลับไปยังไฟล์ภาพต้นฉบับได้ทุกเวลา =)
ก่อนที่เราจะทำงานกับภาพบน iPhoto ได้นั้น เราจะต้องทำการ Import ภาพเข้ามาบน iPhoto Library ก่อนนะครับ และนี่เป็นรายละเอียดเกี่ยวกับการ Import ภาพเข้า iPhoto
การ Import ภาพเข้า IPhoto Library สามารถทำได้หลายวิธีดังนี้
วิธีที่ 1 : ต่อกล้องหรือ card reader เข้ากับ Mac ผ่านสาย USB
โดยส่วนใหญ่แล้ว เมื่อต่อกล้องดิจิตอล (หรืออุปกรณ์มือถืออื่น ๆ ที่ iPhoto detect เจอเอง เช่น iPhone) เข้ากับ Mac โปรแกรม iPhoto จะถูกเรียกขึ้นมาอัตโนมติ แสดงกล้องของเราอยู่ในรายชื่ออุปกรณ์ทางด้านซ้ายมือ พร้อมด้วยหน้าต่างพร้อมทำการ Import ภาพเข้า iPhoto Library
ที่เราต้องทำคือตั้งชื่อ album/ Event ที่เราต้องการที่ด้านล่างของหน้านี้ แล้วเลือก Import ครับ - -
ระหว่างที่ทำการตั้งชื่อไฟล์อยู่นี้ จะมีตัวเลือกอยู่ 2 ตัวคือ
เมื่อเสร็จจากตรงนี้แล้ว เค้าจะมีกล่องข้อความมาถามเราว่า ต้องการที่จะลบต้นฉบับที่อยู่บนกล้องทิ้งหรือไม่
วิธีที่ 2 : Import ไฟล์ภาพที่มีอยู่แล้วบน Hard disk ของเราอยู่แล้วเข้า iPhoto
ตรงนี้จะเป็นไฟล์ภาพที่เรามีอยู่แล้วบนเครื่องก่อน ไม่ว่าจะ scan เข้ามาเก็บไว้ หรือว่า copy ไฟล์ภาพจากกล้องลงมาบนเครื่อง
ใน iPhoto ไปที่เมนู File / Import to Library... จากนั้นจะมีหน้าต่างให้เราเลือกไฟล์ภาพเพื่อ Import ครับ เมื่อเลือกเสร็จแล้วกด Import
เมื่อเราเลือกไฟล์ภาพบนเครื่องแล้วคลิ๊ก Import แล้ว ภาพที่ถูก Import เข้ามาจะเป็น Event ใหม่ครับ พร้อมกับแสดงอยู่บนหัวข้อ Last Import ทางด้านซ้ายมือ
เป็นอันเสร็จการ Import ครับ =)
note : ไม่ควรใช้การ drag & drop ภาพที่อยู่บนเครื่องเข้า iPhoto โดยตรง (apple เตือนเอาไว้ใน help ของ iPhoto ครับ .. มีโอกาสเสี่ยงที่จะทำไฟล์ภาพหายระหว่างทางได้)
การปรับแต่งภาพใน library ของ iPhoto ปรกติจะมี 2 แบบใหญ่ ๆ นะครับคือ
สำหรับบทความตอนนี้จะเป็นเกี่ยวกับการ edit ภาพภายใน iPhoto เองเป็นหลักครับ
การเข้าสู่ mode edit เพื่อปรับแต่งรูปภาพ สามารถทำได้ด้วยการคลิ๊กที่ icon Edit ที่อยู่ด้านล่างของ iPhoto หรือว่าจะคลิ๊กขวาที่รูป แล้วเลือก edit จาก contextual menu ที่แสดงขึ้นมาก็ได้ครับ
หน้าตาส่วน editing mode บน iPhoto’ 09
เมื่อเราคลิ๊กเข้ามาแล้ว เราจะเห็นหน้าตาของ iPhoto ปรับเปลี่ยนให้เราเป็นแบบนี้ครับ
จะมีแถวของ thumbnails ภาพจากใน album หรือว่า events เดียวกันให้เราเลือกด้วย สะดวกดีสำหรับคนที่ต้องการปรับหลาย ๆ ภาพในการ edit ครั้งเดียวครับ ไม่ต้องเข้า ๆ ออก ๆ จากนั้นเราจะเห็นตรงกลางเป็นภาพใหญ่ แสดงภาพที่เราเลือกเอาไว้ว่าจะ edit และแสดงแถบเครื่องมาที่เกี่ยวกับการ edit ทั้งหมดอยู่ด้านล่างของภาพ
เครื่องมือที่มีใน editing mode มีดังนี้
Adjust : iPhoto เปิดโอกาสให้เราสามารถปรับแต่งภาพของเราเองได้จาก setting ต่าง ๆ ดังนี้ครับ
การ crop ภาพคือการตัดขนาดของภาพให้ได้ตามที่เราต้องการ โดยที่ไม่จำเป็นว่าจะต้องคงสัดส่วนของภาพเดิมเสมอไป หรือใครจะเลือกให้คงสัดส่วนเดิมไว้ก็ได้ ตามขั้นตอนที่ผมจะอธิบายต่อไปด้านล่างนี้นะครับ
<hr>
<h2>การใช้คำสั่ง Crop ภาพ</h2>
เมื่อเราคลิ๊กที่ปุ่ม crop ภาพแล้วเขาจะแสดงกรอบของการ crop พร้อมตัวเลือกต่าง ๆ ขึ้นมาแบบนี้ครับ
จะมีกรอบขาว ๆ แสดงขึ้นมา เพื่อให้เรากำหนดบริเวณของภาพที่เราต้องการ โดยจะมีคำสั่งต่าง ๆ อยู่ด้านล่างเอาไว้สำหรับควบคุมสัดส่วนภาพที่เราต้องการจะ crop ครับ
Constrain : ถ้าติ๊กตรงนี้ กรอบที่เราจะ crop ภาพจะคงสัดส่วนตามที่เราเลือกเอาไว้จากรายการทางด้านขวาครับ ซึ่งจะมีให้เราเลือกตามนี้
สัดส่วนภาพโดยทั่วไป iPhoto จะเตรียมมาให้เราเลือกแล้ว แต่ถ้าเราต้องการจะกำหนดสัดส่วน crop เอง ให้เลือก Custom.. ครับ
ตัวเลือก 2 อันด้านล่างคือ
• Constrain as landscape : เป็นการคงสัดส่วนภาพที่เราเลือกตามแนวนอน
• Constrain as portrait : เป็นการคงสัดส่วนตามแนวตั้ง
เมื่อปรับเปลี่ยนตามที่ต้องการได้แล้ว ก็เลือกส่วนของภาพที่เราต้องการจะ crop จากนั้นกด Apply หรือว่า Enter ครับ เราจะได้ภาพที่ crop ออกมาแล้วตามที่เราเลือกเอาไว้ =)
note : ภาพที่ crop แล้วจะยังไม่ save จนกว่าเราจะคลิ๊ก Done ใน mode edit นะครับ
Red-Eyes : เป็นคำสั่งแก้ตาแดงของภาพบุคคลที่เราถ่ายด้วย flash ครับ เช่น
จากภาพนี้
มาเป็นภาพนี้ครับ
เมื่อเข้าคำสั่ง Red-Eyes แล้วเราจะเจอแถบคำสั่งควบคุมอยู่ด้านล่างแบบนี้ครับ
หน้าตาของคำสั่งนี้จะแบ่งออกเป็นสองส่วนนะครับ คือ
Retouch : เป็นคำสั่งเอาไว้สำหรับแก้จุดด่าง หรือตำหนิของภาพในบริเวณใดบริเวณหนึ่งครับ ประมาณว่าลบสิว หรือแก้จุดสีแปลก ๆ ภายในภาพ
จากตัวอย่างภาพซ้ายจะเป็นก่อนแต่งด้วย retouch ส่วนภาพขวาจะเป็นภาพที่แต่งด้วย retouch แล้วครับ =)
เมื่อเราคลิ๊กที่ปุ่ม Retouch แล้วเขาจะมีแถบเครื่องมือแสดงขึ้นมาในภาพ เอาไว้สำหรับกำหนดขนาดของบริเวณที่เราต้องการจะแก้ไขนะครับ ขนาดยิ่งเล็ก การแก้ไขหรือจุดสีที่เกิดขึ้นก็จะยิ่งเนียนตา แต่ทั้งนี้ ควรจะเลือกให้เหมาะสมกับขนาดของตำหนิภายในภาพจะดีที่สุดครับ
เมื่อเลือกขนาดที่เหมาะสมได้แล้ว ก็มาไล่คลิ๊ก หรือคลิ๊กแล้วลากบริเวณตำหนิของภาพได้เลย เราจะเห็นว่าเขาคำนวณค่าสีใหม่ขึ้นมาแทนบริเวณตำหนึของภาพเดิมให้
note : ตัว tool ที่แสดงขึ้นมานี้สามารถเลื่อนไปตรงไหนก็ได้ภายใน iPhoto ครับ
Straighten : เป็นคำสั่งเอาไว้สำหรับแก้ภาพที่เอียงให้ดูดีขึ้น การใช้งานไม่ยุ่งยากครับ เมื่อคลิ๊กเข้าไปเราจะเจอหน้าจอการทำงานแบบนี้
เราจะเห็นเส้นไกด์ขึ้นมาแบ่งส่วนต่าง ๆ ของภาพให้เราดูด้วย ซึ่งเอาไว้ช่วยให้เราเล็งเวลาปรับเอียงให้ได้ฉาก หรือได้แนวระนาบที่ต้องการครับ
การปรับเอียงก็ให้ลากลูกศรตรงกลางแถบเครื่องมือ ไปทางซ้าย - ขวา เอาตามเหมาะสม จากนั้นคลิ๊ก Done เมื่อปรับเสร็จแล้วครับ
ตามปรกติแล้วถ้าเราเอาภาพเข้า Library บน iPhoto แล้วทำการเปลี่ยนชื่อ .. ตรงนี้จะเปลี่ยนเฉพาะส่วนของ title ของภาพเท่านั้น (ชื่อไฟล์ยังคงเดิม)
ถ้าเราต้องการเปลี่ยนชื่อไฟล์ภาพแบบถาวรเองบน iPhoto ทำได้ด้วยวิธีนี้ครับ
note : ตรงส่วน export นี้เรายังกำหนดลดขนาดไฟล์ภาพที่เราต้องการได้ด้วยครับ
เป็นตอนที่ 2 ที่ต่อจาก [iPhoto' 09] การเปลี่ยนชื่อไฟล์ภาพ # 1 (เปลี่ยนรูปเดียวหรือกลุ่มเพื่อนำไปใช้ต่อนอก iPhoto) นะครับ สำหรับตอนแรกนั้นจะเป็นการเปลี่ยนชื่อไฟล์แบบถาวร เพื่อนำไปใช้ต่อข้างนอกโปรแกรม iPhoto
สำหรับ how to ตอนนี้จะเป็นการเปลี่ยนชื่อภาพ (ทั้งเดี่ยวหรือเป็นกลุ่ม หรือทั้งอัลบั้ม) สำหรับภาพที่อยู่ใน iPhoto เป็นหลักครับ
1.ใน iPhoto เลือกภาพที่ต้องการจะเปลี่ยนชื่อ (จะเดี่ยวหรือกลุ่มหรือทั้งอัลบั้มก็ได้ครับ)
2.บนเมนูไปที่ Photos / Batch change... (หรือกด Shift+Command+B)
จะมีกล่องข้อความใหม่ขึ้นมาแบบนี้
ตัวเลือกภายใต้หัวข้อ SET :
ตัวเลือกในส่วนของ TO :
เมื่อกำหนดทุกอย่างเรียบร้อยแล้วกด ok เราก็จะได้ชื่อไฟล์ภาพใหม่ตามที่เราต้องการแล้วครับ =)
note :
แนวทางการใช้งาน Faces คร่าว ๆ บน iPhoto’ 09
ใน iPhoto 8.0.2 ที่ เพิ่ง update ไปเมื่ออาทิตย์ก่อน มีความสามารถใหม่เพิ่มขึ้นมาในส่วนของ Faces ครับ
คือการเดาชื่อบุคคลจากรายชื่อภายใน address book ของเราได้ด้วย
ช่วยให้ทำงานได้สะดวกขึ้นเยอะเลย
อ่านจาก
http://www.tuaw.com/2009/03/30/whats-new-in-iphoto-8-0-2/
note : จากใน comment ของหน้าเวป TUAW มีคนสร้าง album สำหรับรวมรายชื่อคนที่ยังไม่ถูกระบุเอาไว้ได้ด้วย จากเงื่อนไข Face -- is -- unnamed ครับ
Faces เป็นความสามารถใหม่ที่มีมาบน iPhoto’ 09 ครับ โดยหลัก ๆ แล้วจะใช้สำหรับบอก iPhoto ให้จำหน้าบุคคลภายในภาพ เพื่อจัดกเก็บเป็นหมวดหมู่ภาพที่เกี่ยวข้องกับบุคคลนั้น ๆ .. จะมีที่เราต้องทำหลัก ๆ อยู่ 2 ส่วนคือ
note : ถ้าเราเปิดใช้งาน iphoto ครั้งแรก โปรแกรมจะทำการไล่ update ภาพทั้งหมดใน library ของเราว่ามีใบหน้าบุคคลอยู่หรือไม่ .. ถ้าใครเจอตรงนั้นให้รอเค้า update ให้เสร็จทั้งหมดก่อน ถึงจะไล่ทำตาม tutorial ด้านล่างนี้ได้นะครับ
การใช้งาน Faces เบื้องต้น
ขั้นตอนที่ 1 : เมื่อเข้าไปที่ Library / Faces เราจะเจอหน้าแบบนี้เป็นครั้งแรก
ขั้นตอนที่ 2 : ที่เราต้องทำต่อไปคือ กำหนดใบหน้าบุคคลให้ iPhoto ครับ .. จะเป็นภาพใครก็ได้ แต่ผมอยากแนะนำว่า ให้เลือกภาพที่มีใบหน้าบุคคลชัดเจนที่สุดสำหรับส่วนตรงนี้ เพื่อช่วยให้ iPhoto จำได้แม่นขึ้น ควรจะเป็นภาพหน้าตรง หรือมุมที่ไม่เพี้ยนมากจะดีที่สุดครับ
อธิบาย
หลังจากกำหนดชื่อให้กับภาพถ่ายแล้ว กลับมาดูในส่วนของ Faces เราจะเห็นว่ามีภาพของบุคคลที่เราเพิ่งกำหนดไปเมื่อสักครู่ ม่โผล่อยู่ในส่วนนี้แล้วครับ
ซึ่งจากตรงนี้ไป เมื่อเราเข้าไปดูภาพปรกติใน library แล้วเจอภาพผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นบุคคลภายในภาพ เค้าจะขึ้นคำถามขึ้นมาให้ครับ
จะถือว่าเสร็จแล้วก็ได้ แต่ก่อนที่เราจะใช้งานปรกติ ผมคิดว่า เราควรที่จะกำหนดภาพเพิ่มเติมให้กับ iPhoto เข้าไปอีก เพื่อให้เค้าจำหน้าบุคคลได้ “แม่น” ขึ้นครับ ดูขั้นตอนต่อไป iPhoto' 09 : Faces #2 - สอน iPhoto ให้จำหน้าคนได้ "แม่น" ขึ้น
สอนให้ iPhoto จำหน้าคนได้ “แม่น” ขึ้น
ถึงเราจะกำหนดภาพบุคคลที่ชัดเจนไปในภาพแรกแล้ว แต่ไม่มีระบบอะไรสมบูรณ์พร้อมครับ Faces ก็เช่นเดียวกัน .. เราควรจะช่วยให้เค้าจำหน้าบุคคลในภาพได้ดีขึ้นด้วยการเพิ่มหน้าคน ๆ เดียวกันนี้เข้าไปในฐานข้อมูลให้มากขึ้น เพื่อที่เค้าจะได้คำนวณได้ “แม่น” หรือว่าผิดพลาดน้อยลงครับ
note : นี่เป็นขั้นตอนที่ต่อเนื่องจากบทความตอนที่แล้ว ผมเลยเริ่มที่ ขั้นตอนที่ 3 นะครับ
ขั้นตอนที่ 3 : ในส่วนของ Faces คลิ๊กที่ภาพใบหน้าของบุคคลที่เราต้องการเพิ่มภาพอ้างอิงเพิ่มเติมเข้าระบบ จากนั้น เราจะถูกพาเข้ามาที่หน้าใหม่ ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 ส่วน ตามภาพครับ
ให้คลิ๊กที่ปุ่ม Confirm Name ที่แถบด้านล่างของหน้าต่างนี้ เพื่อเข้าสู่งขั้นตอนยืนยันรูปเพิ่มเติมครับ
ขั้นตอนที่ 4 : เลือกยืนยันรูปเพิ่มเติม
หลังจากกดปุ่ม Confirm Name มาแล้ว เราจะเห็นภาพบุคคลต้องสงสัยมาให้เราเลือกยืนยัน (Confirm) เข้าระบบ
ให้เราทำการยืนยันด้วยวิธีการดังนี้
แล้วเราจะเห็นป้ายยืนยันที่ด้ารล่างของแต่ละภาพใบหน้าครับ แบบนี้
หลังจากกำหนดทุกอย่างตามที่เราเห็นสมควรว่าพอแล้ว ก็คลิ๊กเลือก Done ที่ด้านล่างขวาของหน้าต่างนี้ เพื่อกลับเข้าสู่การใช้งานปรกติ
note :
หมดจากการสอนให้ iPhoto จำภาพคนไปแล้ว ต่อไปก็จะเป็นการนำไปใช้ครับ
iPhoto' 09 : Faces #3 - การนำ Faces มาประยุกต์ใช้งานปรกติ
การนำ Faces มาใช้งานในสถานการณ์ปรกติ เพื่อช่วยให้เราจัดภาพเป็นหมวดหมู่
คือ Faces เป็นการกำหนดให้ระบบรับรู้ - จำใบหน้าคนในภาพ และช่วยให้เราจัดการกับภาพถ่ายเป็นหมวดหมู่แยกแยะตามใบหน้าบุคคลในภาพได้ง่ายขึ้น สำหรับคนที่ต้องการจัดอัลบั้มรวมโดยอาศัยจากชื่อ หรือบุคคลในภาพเป็นที่ตั้ง ในบทความเกี่ยวกับ Faces ตอนที่ 3 นี้ เลยจะเกี่ยวกับการนำ Faces มาประยุกต์ใช้กับการใช้งานปรกติบน iPhoto’ 09 ครับ
ใน library เมื่อเราดูภาพปรกติ แล้วเราต้องการจะกำหมดว่าใครอยู่ในภาพบ้าง ให้คลิ๊กที่ปุ่ม Name ที่ด้านล่างซ้ายมือ (ตรงลูกศร)
เราจะเห็นว่ามีกล่องจับใบหน้าขึ้นมา พร้อมชื่อของแต่ละใบหน้าโดยอ้างอิงจากข้อมูลที่มีอยู่ใน Faces ครับ ในบางกรณี ถ้า iPhoto ไม่แน่ใจ เค้าจะถามเราว่าว่าใช่บุคคลที่เรามีอยู่ในระบบหรือไม่ ดังภาพด้านล่าง
note : การสุ่มจะยิ่ง “แม่น” ถ้าเรามีข้อมูลของภาพบุคคลที่ต้องการใน Faces พอสมควรครับ
ถ้า “ใช่” ให้กดปุ่มเครื่องหมายถูก ถ้า “ไม่ใช่” ให้เลือกเครื่องหมาย ผิด และพิมพ์ชื่อคนที่ถูกต้องลงไปครับ เสร็จแล้วจะเป็นแบบนี้
เมื่อเลือกเสร็จแล้วคลิ๊ก Done ที่ด้านล่างขวา (ตรงลูกศรชี้) เพื่อเป็นการเสร็จจากตรงนี้
note : ถ้า iPhoto ไม่ขึ้นกรอบใบหน้าของบุคคลภายในรูป ให้คลิ๊กปุ่ม Add Missing Face (ที่ด้านล่างซ้ายมือ) แล้วทำการกำหนดกรอบใบหน้าที่ต้องการพร้อมพิมพ์ชื่อเข้าไปใหม่ครับ
หลังจากกำหนดชื่อคนในภาพถ่ายปรกติได้แล้ว ที่เราทำได้ต่อมาคือ สร้าง Smart Album ที่มีเฉพาะบุคคลนั้น ๆ ขึ้นมาครับ
สร้าง Smart Album เฉพาะบุคคลที่เราต้องการ
บน Faces คลิ๊กที่ภาพใบหน้าของคนที่ต้องการ จากนั้น คลิ๊กที่ปุ่ม Smart Album ที่ด้านล่างซ้ายมือ
เราจะได้ Smart Album ขึ้นมาใหม่ โดยภายในอัลบั้มนั้จะมีเฉพาะภาพของบุคคลที่เราต้องการครับ =)
Places : เป็นความสามารถใหม่ที่เพิ่มเข้ามาใน iPhoto’ 09 ครับ มีเอาไว้สำหรับจัดหมวดหมู่ของภาพ ตามสถานที่ ๆ เราไปถ่ายมา โดยหลัก ๆ iPhoto จัดการภาพจากข้อมูลของ Geo Tagging หรือ GPS data ภายในภาพถ่ายเพื่อมาลงในส่วนของ Places
ข้อมูล Geo Tagging หรือ GPS data ในส่วนของ iPhoto: Places นั้นสามารถมาได้ 2 แบบครับ คือ
คำสั่งเฉพาะในส่วนของ Places
View : ปุ่มนี้จะเป็นการปรับรูปแบบแสดงผลหลักของหน้า places นี้นะครับ โดยถ้าเลือกอันทางซ้าย ที่เป็นรูปลูกโลก จะแสดงผลแบบแผนที่แล้วมีหมุดปักลงไปตามสถานที่ ๆ เราถ่ายรูปมา
ส่วนถ้าเลือกอันทางขวา จะเป็นการแสดงรายชื่อสถานที่แบบ list พร้อมกับแสดงภาพที่เราถ่ายไว้ในสถานที่นั้น ๆ แบบนี้ครับ
note : ในหน้า view แบบ list นี้เราสามารถที่จะ edit ภาพ หรือว่าใส่ face ให้กับภาพได้เลย เหมือนกับการดูภาพผ่าน events หรือ album ครับ
คำสั่งที่เหลือมีดังนั้น
แบบ Terrain
แบบ Satellite
แบบ Hybrid
Geo tag คือค่าระบุพิกัดดาวเทียมที่โปรแกรมจะนำไปแปลงเป็นชื่อสถานที่เพื่อให้เราเข้าใจว่าพิกัดที่มีใน Geo Tag นั้นคือสถานที่อะไร ซึ่งโปรแกรมถ่ายภาพรุ่นใหม่ ๆ ในปัจจับันนี้สามารถอ่านและแปลให้เป็นชื่อสถานที่ที่เราไปถ่ายภาพนั้น ๆ มาให้เราดูได้แล้ว และ iPhoto ก็เป็นหนึ่งในนั้นครับ
บน place เราสามารถใส่ Geo Tag ให้กับภาพได้ 2 ลักษณะใหญ่ ๆ ดังนี้ครับ
วิธีใส่ Geotag ให้กับภาพบน iPhoto
ขั้นตอนที่ 1 : ใน iPhoto ไปที่ภาพที่เราต้องการ แล้วคลิ๊กที่ปุ่มรูปตัว i
ขั้นตอนที่ 2 : เรามีหน้าต่างใหม่ขึ้นมาหน้าตาแบบนี้ครับ
อธิบาย
ขั้นตอนที่ 3 : เริ่มพิมพ์ชื่อสถานที่
สำหรับการพิมพ์ชื่อสถานที่ลงไปเองในขั้นตอนนี้นั้น ถ้าเป็นสถานที่ที่เด่นดังหรือมีชื่อเสียงหรือเป็นสถานที่ ๆ เราเคยกำหนดเองมาแล้ว เขาจะแสดงรายการมาให้เราเลือกขณะพิมพ์เองครับแบบนี้
แต่ถ้าเขาไม่มีให้เราเลือก หรือเป็นสถานที่เฉพาะกิจ เช่นสถานนีอนามัยประจำจังหวัดชลบุรี หรือสถานที่ต่าง ๆ ในประเทศไทย ฯลฯ แบบนี้เราต้องกำหนดเองจากการเลือก Find on map.. ครับ
เลือก Find on map...
ขั้นตอนที่ 4 : หลังจากเลือก Find on map แล้วเราจะได้หน้าต่างค้นหาแผนที่แบบนี้มาครับ
ลองพิมพ์ชื่อสถานที่ลงไปดูครับ
ที่เราต้องทำต่อไปคือ
แล้วเราก็จะได้แผนที่เล็ก ๆ ที่ระบุว่าภาพนั้นเราถ่ายที่ไหนขึ้นมาแล้วครับ แบบนี้
ให้คลิ๊ก done เพื่อเป็นการยืนยันอีกครั้งหนึ่ง ก็เป็นอันเสร็จการใส่ Geo Tag ให้กับภาพเราแล้วครับ =)
เมื่อเราติดตั้งชุด iLife’09 ถ้าเราใช้ iLife เวอร์ชั่นก่อนหน้านี้ เมื่อเราเปิด iPhoto’ 09 ขึ้นมาครั้งแรก จะมีหน้าต่างเล็ก ๆ มาบอกเราว่า เราต้องทำการ upgrade ตัว library เดิมก่อนถึงจะสามารถใช้งาน iPhoto’ 09 ได้ ให้คลิ๊ก Upgrade ครับ
หลังจากคลิ๊กเลือก Upgrade ไปแล้ว ตัว iPhoto จะเริ่มทำการ upgrade ตัว library ของเราให้ทำงานได้บน iPhoto’ 09 ซึ่งตรงนี้จะใช้เวลาสักระยะหนึ่ง
และเมื่อเสร็จจากตรงนี้ไปแล้ว พอเข้าใช้งานโปรแกรมจริง ๆ จะมีการ update อีกสองส่วนคือ
ซึ่งในการ update library ของทั้งสองส่วนนี้จะกินเวลาขึ้นอยู่กับปริมาณของภาพใน library เรา อย่างของผมกินในส่วนของ Faces ประมาณ 140 นาที (library ขนาด 7,000 ภาพ) แต่ในส่วนของ Places นี้ใช้เวลานิดเดียว เพราะผมไม่ได้ใช้กล้องที่มี geo tagging ในการถ่ายภาพปรกติครับ
ส่วนรวม tip & trick สำหรับ iPhoto' 09 ครับ
ตรงนี้จะเป็นส่วนที่รวมขึ้นมาจากห้อง How to / Tips & Trick ใน forum โดยสมาชิกเวปครับ =)
เราสามารถใช้ command x เวลาอยากจะย้ายรูปจากอัลบั้มหนึ่ง ไปอีกอัลบั้มหนึ่ง
โดยไม่ต้องมานั่งลากแล้วมา delete from album
ปล. tip นี้สั้นจัง
วิธีย้าย iPhoto library ไปไว้บน External Hard Drive แบบง่าย ๆ ด้วยวิธีการดังนี้ครับ
note : ผมใช้ iPhoto' 09 ในการทำ how to นี้ แต่คิดว่าหลักการเดียวกันน่าจะยังใช้ได้กับ iPhoto' 08 ครับ
1.ใน Finder เปิดหน้าต่างเอาไว้ 2 อันเพื่อเตรียมการ copy iPhoto library ของเราดังนี้ครับ
2.Copy ไฟล์จาก A ไปยัง B (ให้ใช้ copy เท่านั้นครับ เป็นการกันเอาไว้เผื่อมีอะไรผิดพลาดขณะย้ายไฟล์ .. ไม่ควร move นะครับเพราะเสี่ยงต่อการทำไฟล์หายหรือ library เสียครับ)
3.เมื่อ copy ไฟล์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ทำการทดสอบดูว่า library ที่เอาไปไว้บน Ext.hdd นั้นใช้งานได้เหมือนอันที่อยู่ในเครื่องหรือเปล่า ให้กด Option ค้างเอาไว้ตอนที่เปิด iPhoto แล้วเราจะเจอกล่องคำถามขึ้นมาแบบนี้
ให้เลือก Choose แล้วชี้ไปยังปลายทางที่เรา copy ไฟล์เอาไว้จากขั้นตอนที่ 1
4.จากนั้นถ้าทุกอย่างใช้งานได้ปรกติ เราค่อยลบ iPhoto library เดิมบนเครื่องเราออกครับ
วันนี้เห็นหน้า support ของ iPhoto บนเวป apple.com มีการอัพเดทเกี่ยวกับ การ burn cd ภาพสำหรับเปิดหรือว่าใช้งานบนเครื่อง windows pc .. เห็นว่ามีประโยชน์ดีครับ เลยเอามาเก็บไว้อีกเช่นกัน
หลักการคือ
เป็นวิธีที่ผมบังเอิญค้นพบครับ .. สำหรับผู้ที่ต้องการลบภาพจากบน Smart Album ให้ทำดังนี้
note : ภาพที่ถูกลบด้วยวิธีนี้ ภาพต้นฉบับจากใน Library จะถูกนำมาลงใน trash บน iPhoto' 09 ด้วยนะครับ