iPhoto' 09 : Basic

แนวทางพื้นฐานทั่วไป สำหรับการใช้งาน iPhoto’ 09

Basic : iPhoto ทำงานอย่างไร?

iPhoto เป็นโปรแกรมที่มีรูปแบบการจัดการไฟล์ภาพแบบ ฐานข้อมูล (ดู http://macmuemai.com/content/373 ประกอบ) ที่ช่วยให้เราจัดการภาพถ่ายของเราได้สะดวกมากขึ้นกว่าการจัดการไฟล์ภาพเอง

ตรงนี้สำหรับผู้ใช้งาน windows pc มาก่อน อาจจะยังไม่คุ้นเคยกับการทำงานแบบฐานข้อมูลนี้ ผมแนะนำให้ลองอ่านจาก link ที่ให้ไว้ด้านบนประกอบนะครับ จะได้เห็นภาพมากขึ้น

และนี่เป็น Basic ง่าย ๆ ในการใช้งาน iPhoto ในภาพรวมครับ

iPhoto เอาไว้ทำอะไร?

หลัก ๆ ที่ใช้โดยทั่วไปนะครับ

  • เอาไว้สำหรับแยกจัดเก็บไฟล์ภาพถ่ายตามที่เราต้องการ ไม่ว่าจะแยกเป็น album, ตามสถานที่(Places) หรือตามใบหน้าบุคคล (Faces)
  • ตกแต่ง / ใส่ effect ภาพถ่ายในเบื้องต้น (ทำได้ดีระดับนึงเลย)
  • แชร์ภาพเข้าเวป ( Flickr หรือ Facebook)

iPhoto แตกต่างจากโปรแกรมดูภาพอื่น ๆ ที่เคยใช้บน pc อย่างไร?

iPhoto นอกจากจะเอาไว้ดูภาพแล้ว ที่เด่นกว่าโปรแกรมดูภาพทั่วไปคือการจัดเก็บไฟล์ภาพทั้งหมดของเราในฐานข้อมูล หรือว่า database ครับ ตรงนี้ทำให้เราเลือกแสดงผล หรือว่าค้นหาภาพที่เราต้องการได้ง่าย และไม่ต้องทำทั้งหมดเอง เพราะโปรแกรมจะช่วยจัดตรงนี้ให้เรา .. เรามีหน้าที่แค่กำหนดรายละเอียดบางส่วนให้กับภาพตอนที่เอาเข้า iPhoto เท่านั้นครับ

ถ้าจะใช้ iPhoto ในการเก็บภาพเราควรทำอย่างไร?

ถ้าเราเลือกที่จะใช้ iPhoto จัดการกับภาพถ่ายของเราแล้ว เราต้องทำการเอาภาพเข้าฐานข้อมูลของ iPhoto หรือที่เรียกว่า iPhoto Library ด้วยการ import ครับ ทำได้ด้วยวิธีการต่อไปนี้

  • ไปที่เมนูบาร์ File/ Import แล้วเลือก File/ Folder ของภาพที่ต้องการ
  • จับไฟล์ที่ต้องการแล้วลากเข้า iPhoto โดยตรง
  • ต่ออุปกรณ์กล้อง หรือโทรศัพท์มือถือ (iPhone) เข้ากับ Mac และเลือกให้ iPhoto import เข้าเครื่อง
  • Scan ภาพเข้า iPhoto โดยเลือกจาก Application/ Utility/ Image Capture แล้วตั้งให้ import ภาพที่ scan เข้า iPhoto

ต้องการย่อภาพที่มีอยู่ใน iPhoto ทำอย่างไร?

บน iPhoto ภาพทุกภาพที่ถูกนำเข้ามา จะคงขนาดเอาไว้เท่ากับไฟล์ต้นฉบับ ถ้าเราต้องการจะเปลี่ยนขนาด สามารถทำได้ในขั้นตอน Export เพื่อการนำภาพไปใช้ในงานอื่น ๆ ต่อไป

ต้องการย่อภาพไหน ให้เลือกเอาไว้ จากนั้นไปที่ File บนเมนูบาร์ แล้วเลือก Export ครับ จะมีตัวเลือกมาให้เราปรับแต่งขนาดและรายละเอียดต่าง ๆ ที่เราต้องการ

iphoto-export.jpg

ต้องการปรับแต่งภาพ ทำอย่างไร?

เลือกภาพที่ต้องการปรับ และคลิ๊กที่ปุ่ม Edit จะมี edit panel ขึ้นมา ให้เราปรับแต่ง เมื่อเสร็จแล้วคลิ๊ก done เพื่อเป็นการ save ภาพที่เราปรับ

note : ภาพทุกภาพที่ถูกปรับแต่งใน iPhoto เมื่อเรา save เค้าจะทำการสร้างไฟล์ใหม่ขึ้นมา โดยภาพที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่นี้ จะกินพื้นที่ไม่มากครับ ทำให้เราสามารถที่จะย้อนกลับไปยังไฟล์ภาพต้นฉบับได้ทุกเวลา =)

Basic : การ import ภาพเข้า iPhoto

ก่อนที่เราจะทำงานกับภาพบน iPhoto ได้นั้น เราจะต้องทำการ Import ภาพเข้ามาบน iPhoto Library ก่อนนะครับ และนี่เป็นรายละเอียดเกี่ยวกับการ Import ภาพเข้า iPhoto

การ Import ภาพเข้า IPhoto Library สามารถทำได้หลายวิธีดังนี้

วิธีที่ 1 : ต่อกล้องหรือ card reader เข้ากับ Mac ผ่านสาย USB

โดยส่วนใหญ่แล้ว เมื่อต่อกล้องดิจิตอล (หรืออุปกรณ์มือถืออื่น ๆ ที่ iPhoto detect เจอเอง เช่น iPhone) เข้ากับ Mac โปรแกรม iPhoto จะถูกเรียกขึ้นมาอัตโนมติ แสดงกล้องของเราอยู่ในรายชื่ออุปกรณ์ทางด้านซ้ายมือ พร้อมด้วยหน้าต่างพร้อมทำการ Import ภาพเข้า iPhoto Library

import-to-library-1-01.gif

ที่เราต้องทำคือตั้งชื่อ album/ Event ที่เราต้องการที่ด้านล่างของหน้านี้ แล้วเลือก Import ครับ - -

import-to-library-1-02.jpg

ระหว่างที่ทำการตั้งชื่อไฟล์อยู่นี้ จะมีตัวเลือกอยู่ 2 ตัวคือ

  • Autosplit events after importing : ถ้าเรา import ภาพเข้ามาพร้อมกันเยอะ ๆ ภาพจะถูกแบ่งกลุ่มลง Event ให้เองโดยแยกความต่างของช่วงเวลาครับ
  • Hide photos already imported : ถ้าการ import ก่อนหน้านี้แล้วเราไม่ได้เลือกลบภาพที่อยู่บนกล้องไป ตัวเลือกนี้จะเป็นการซ่อมภาพที่เรา import เข้ามาแล้วครับ จะเหลือแสดงเฉพาะภาพใหม่ที่ยังไม่ได้ import เท่านั้น

เมื่อเสร็จจากตรงนี้แล้ว เค้าจะมีกล่องข้อความมาถามเราว่า ต้องการที่จะลบต้นฉบับที่อยู่บนกล้องทิ้งหรือไม่

  • Keep Photos : เป็นการเก็บไฟล์ต้นฉบับบนกล้องเอาไว้เหมือนเดิม
  • ถ้าใครต้องการลบภาพที่มีอยู่บนกล้อง ก็เลือก Delete Photos ครับ

import-to-library-1-1.gif

วิธีที่ 2 : Import ไฟล์ภาพที่มีอยู่แล้วบน Hard disk ของเราอยู่แล้วเข้า iPhoto

ตรงนี้จะเป็นไฟล์ภาพที่เรามีอยู่แล้วบนเครื่องก่อน ไม่ว่าจะ scan เข้ามาเก็บไว้ หรือว่า copy ไฟล์ภาพจากกล้องลงมาบนเครื่อง

ใน iPhoto ไปที่เมนู File / Import to Library... จากนั้นจะมีหน้าต่างให้เราเลือกไฟล์ภาพเพื่อ Import ครับ เมื่อเลือกเสร็จแล้วกด Import

import-to-library.gif

เมื่อเราเลือกไฟล์ภาพบนเครื่องแล้วคลิ๊ก Import แล้ว ภาพที่ถูก Import เข้ามาจะเป็น Event ใหม่ครับ พร้อมกับแสดงอยู่บนหัวข้อ Last Import ทางด้านซ้ายมือ

import-to-library-3.gif

เป็นอันเสร็จการ Import ครับ =)

note : ไม่ควรใช้การ drag & drop ภาพที่อยู่บนเครื่องเข้า iPhoto โดยตรง (apple เตือนเอาไว้ใน help ของ iPhoto ครับ .. มีโอกาสเสี่ยงที่จะทำไฟล์ภาพหายระหว่างทางได้)

Basic : การปรับแต่งภาพเบื้องต้น

การปรับแต่งภาพใน library ของ iPhoto ปรกติจะมี 2 แบบใหญ่ ๆ นะครับคือ

  1. edit ภาพจากภายใน iPhoto เอง
  2. edit ภาพจากโปรแกรมอื่นนอก iPhoto (สำหรับคนที่ใช้โปรแกรมแต่งภาพอื่น ๆ อยู่แล้ว เราสามารถส่งภาพจากใน iPhoto ไปเปิดเพื่อ edit ในโปรแกรมข้างนอกได้แล้ว save กลับมาอยู่ใน library ครับ)

สำหรับบทความตอนนี้จะเป็นเกี่ยวกับการ edit ภาพภายใน iPhoto เองเป็นหลักครับ


การเข้าสู่ mode edit เพื่อปรับแต่งรูปภาพ สามารถทำได้ด้วยการคลิ๊กที่ icon Edit ที่อยู่ด้านล่างของ iPhoto หรือว่าจะคลิ๊กขวาที่รูป แล้วเลือก edit จาก contextual menu ที่แสดงขึ้นมาก็ได้ครับ

edit-overall-01.jpg context-edit-1.png


หน้าตาส่วน editing mode บน iPhoto’ 09

เมื่อเราคลิ๊กเข้ามาแล้ว เราจะเห็นหน้าตาของ iPhoto ปรับเปลี่ยนให้เราเป็นแบบนี้ครับ

edit-overall-02.jpg

จะมีแถวของ thumbnails ภาพจากใน album หรือว่า events เดียวกันให้เราเลือกด้วย สะดวกดีสำหรับคนที่ต้องการปรับหลาย ๆ ภาพในการ edit ครั้งเดียวครับ ไม่ต้องเข้า ๆ ออก ๆ จากนั้นเราจะเห็นตรงกลางเป็นภาพใหญ่ แสดงภาพที่เราเลือกเอาไว้ว่าจะ edit และแสดงแถบเครื่องมาที่เกี่ยวกับการ edit ทั้งหมดอยู่ด้านล่างของภาพ


เครื่องมือที่มีใน editing mode มีดังนี้

edit-overall-03-left.jpg

  • Rotate : สำหรับหมุนภาพ
  • Crop : Crop ภาพ หรือการตัดส่วนของภาพให้ได้ตามที่เราต้องการ
  • Straighten : การปรับเอียง
  • Enhance : เป็นการปรับภาพทุกอย่างแบบ auto ในคลิ๊กเดียว โดย iPhoto จะพยายามปรับสมดุลของภาพให้
  • Red-Eye : เอาจุดแดงบริเวณดวงตาออก สำหรับภาพบุคคลตอนกลางคืน ที่ถ่ายโดยใช้แฟรช
  • Retouch : เป็นการแต่งบริเวณต่าง ๆ ของภาพ เช่นจุดด่าง หรืออื่น ๆ โดยอาศัยสีของบริเวณใกล้เคียงมาโป่ะลงไป (เหมือนการลบสิวใน photoshop ยิ้มปากกว้าง)
  • Effects : ใส่ effect ให้กับภาพ ซึ่ง iPhoto เตรียมให้เรามาบ้างแล้ว
  • Adjust : ปรับแต่งภาพด้วยค่าต่าง ๆ เอง เช่น ปรับ contrast, level, sharpen ... ฯลฯ

edit-overall-03-right.jpg

  • Done : ปุ่มยืนยันการปรับแต่งทั้งหมดที่เราทำ ถ้าเราไม่กดตรงนี้ เขาจะยังไม่ save ค่าที่เปลี่ยนแปลงของภาพนะครับ
  • ปุ่มลูกศร : เอาไว้เลื่อนไปยังภาพ ก่อนหน้้า / ถัดไป

Adjust : ปรับแต่งภาพถ่ายของเรา

Adjust : iPhoto เปิดโอกาสให้เราสามารถปรับแต่งภาพของเราเองได้จาก setting ต่าง ๆ ดังนี้ครับ

adjust-1.png

  • Level : เป็นการกำหนดขอบเขตของจุดสว่างสุดกับจุดมืดที่สุดของภาพ ยิ่งแคบ ภาพจะยิ่งมี contrast สูงขึ้น และยังปรับโทนของภาพได้จากปุ่มเลื่อนที่อยู่ตรงกลาง เลื่อนไปทางซ้าย ภาพจะออกโทนสว่าง เลื่อนไปทางขวา ภาพจะออกโทนมืดครับ ซึ่งการใช้ Level มีข้อดีคือ เราสามารถเลือกจัดการเฉพาะส่วนที่สว่างกับส่วนที่มืดแยกจากกันได้ ไม่เหมือนปรับด้วย exposure ที่จะไปพร้อมกันทั้งภาพ
  • Exposure : ปรับความสว่าง - มืดโดยรวมของภาพทั้งภาพ
  • Contrast : ปรับ contrast ของภาพ หรือว่าความแตกต่างกันของค่าความสว่าง - มืด ภายในภาพครับ
  • Saturation : ปรับความอ่ิมของสี ยิ่งค่ามาก สีภายในภาพจะยิ่งสดขึ้น
    • Avoid saturating the skin tones : ช่องนี้จะเอาไว้สำหรับการปรับ Saturation กับภาพบุคคล ที่ iPhoto จะพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้สีผิวสดขึ้นเกินความเป็นจริง
  • Definition : เป็นการปรับ contrast อ่อน ๆ ครับ จากใน help ของ iPhoto บอกเอาไว้แบบนั้นมีผลให้ภาพโดยรวมใสขึ้น
  • Highlights : ปรับส่วนสว่างวาบของภาพให้มืดลง
  • Shadows : ปรับส่วนของเงาที่มืดในภาพให้สว่างขึ้น
  • Sharpness : ปรับความคมชัดของภาพ
  • De-noise : ลด noise ลง แต่ถ้าปรับมาก ภาพจะเบลอครับ
  • Temperature : ปรับโทนของภาพ ว่าจะไปโทนอุ่น (ทางสีส้ม) หรือโทนเย็น (ทางสีน้ำเงิน)
  • Tint : ปรับโทนของภาพคล้าย ๆ Temperature แต่จะไปทางสีแดง กับเจือสีเขียว
    • ตรงส่วนนี้จะมีตัวดูดสีมาให้เราด้วย เวลาใช้ถ้าเกิดภาพสีเพี้ยนมาก ๆ ให้เราใช้ตัวดูดสีนี้จิ้มไปที่บริเณส่วนที่เป็นสีขาว หรือสีเทากลางของภาพนะครับ แล้วที่เหลือเขาจะปรับ white balance ให้เอง (หลักการเดียวกับการปรับ white balance บนกล้องดิจิตอล)
  • Reset : เป็นการยกเลิกค่าที่เราปรับไปแล้ว มาเริ่มใหม่
  • Copy : copy ค่า setting ที่เราเพิ่งปรับไป สำหรับนำไปใช้กับภาพอื่น - วิธีนี้ค่อนข้างสะดวกมากรณีที่เราต้องการปรับภาพหลาย ๆ ภาพในลักษณะเดียวกัน
  • Paste : เป็นการ paste ค่า setting ของภาพที่เรา save เอาไว้ก่อนหน้านี้ มาใช้กับภาพที่เลือกอยู่ปัจจุบันครับ

Crop : การ crop ภาพ

การ crop ภาพคือการตัดขนาดของภาพให้ได้ตามที่เราต้องการ โดยที่ไม่จำเป็นว่าจะต้องคงสัดส่วนของภาพเดิมเสมอไป หรือใครจะเลือกให้คงสัดส่วนเดิมไว้ก็ได้ ตามขั้นตอนที่ผมจะอธิบายต่อไปด้านล่างนี้นะครับ

<hr>
<h2>การใช้คำสั่ง Crop ภาพ</h2>

crop-tool-1-1.png

เมื่อเราคลิ๊กที่ปุ่ม crop ภาพแล้วเขาจะแสดงกรอบของการ crop พร้อมตัวเลือกต่าง ๆ ขึ้นมาแบบนี้ครับ

crop-tool-1.jpg

จะมีกรอบขาว ๆ แสดงขึ้นมา เพื่อให้เรากำหนดบริเวณของภาพที่เราต้องการ โดยจะมีคำสั่งต่าง ๆ อยู่ด้านล่างเอาไว้สำหรับควบคุมสัดส่วนภาพที่เราต้องการจะ crop ครับ

Constrain : ถ้าติ๊กตรงนี้ กรอบที่เราจะ crop ภาพจะคงสัดส่วนตามที่เราเลือกเอาไว้จากรายการทางด้านขวาครับ ซึ่งจะมีให้เราเลือกตามนี้

crop-tool-2.png
สัดส่วนภาพโดยทั่วไป iPhoto จะเตรียมมาให้เราเลือกแล้ว แต่ถ้าเราต้องการจะกำหนดสัดส่วน crop เอง ให้เลือก Custom.. ครับ

ตัวเลือก 2 อันด้านล่างคือ
        •        Constrain as landscape : เป็นการคงสัดส่วนภาพที่เราเลือกตามแนวนอน
        •        Constrain as portrait : เป็นการคงสัดส่วนตามแนวตั้ง

เมื่อปรับเปลี่ยนตามที่ต้องการได้แล้ว ก็เลือกส่วนของภาพที่เราต้องการจะ crop จากนั้นกด Apply หรือว่า Enter ครับ เราจะได้ภาพที่ crop ออกมาแล้วตามที่เราเลือกเอาไว้ =)

note : ภาพที่ crop แล้วจะยังไม่ save จนกว่าเราจะคลิ๊ก Done ใน mode edit นะครับ

Red-Eyes : แก้ตาแดง

Red-Eyes : เป็นคำสั่งแก้ตาแดงของภาพบุคคลที่เราถ่ายด้วย flash ครับ เช่น

จากภาพนี้
red-eyes-tool-05.jpg

มาเป็นภาพนี้ครับ
red-eyes-tool-04.jpg

เมื่อเข้าคำสั่ง Red-Eyes แล้วเราจะเจอแถบคำสั่งควบคุมอยู่ด้านล่างแบบนี้ครับ

red-eyes-tool-03.jpg

หน้าตาของคำสั่งนี้จะแบ่งออกเป็นสองส่วนนะครับ คือ

  • Auto : เมื่อกด ปุ่มนี้ iPhoto จะพยายามแก้ตาแดงให้เราเอง ส่วนใหญ่จะได้ผลครับ
  • ปรับเอง : คือเป็นการคลิ๊กลงไปในภาพโดยตรง (ผ่านคำสั่ง red-eyes นี้) เราจะเห็นว่ามีวงกลมอยู่ที่ปลาย cursor เรา ให้เราปรับขนาดของวงกลมนี้ผ่าน Size ตรง slider ที่อยู่ด้านล่างครับ แล้วไปคลิ๊กบริเวณดวงตาของบุคคลนั้น

Retouch : ลบตำหนิภายในภาพ

Retouch : เป็นคำสั่งเอาไว้สำหรับแก้จุดด่าง หรือตำหนิของภาพในบริเวณใดบริเวณหนึ่งครับ ประมาณว่าลบสิว หรือแก้จุดสีแปลก ๆ ภายในภาพ

retouch-t-1.jpg retouch-t-2.jpg

จากตัวอย่างภาพซ้ายจะเป็นก่อนแต่งด้วย retouch ส่วนภาพขวาจะเป็นภาพที่แต่งด้วย retouch แล้วครับ =)

เมื่อเราคลิ๊กที่ปุ่ม Retouch แล้วเขาจะมีแถบเครื่องมือแสดงขึ้นมาในภาพ เอาไว้สำหรับกำหนดขนาดของบริเวณที่เราต้องการจะแก้ไขนะครับ ขนาดยิ่งเล็ก การแก้ไขหรือจุดสีที่เกิดขึ้นก็จะยิ่งเนียนตา แต่ทั้งนี้ ควรจะเลือกให้เหมาะสมกับขนาดของตำหนิภายในภาพจะดีที่สุดครับ

retouch-t-3.jpg

เมื่อเลือกขนาดที่เหมาะสมได้แล้ว ก็มาไล่คลิ๊ก หรือคลิ๊กแล้วลากบริเวณตำหนิของภาพได้เลย เราจะเห็นว่าเขาคำนวณค่าสีใหม่ขึ้นมาแทนบริเวณตำหนึของภาพเดิมให้

note : ตัว tool ที่แสดงขึ้นมานี้สามารถเลื่อนไปตรงไหนก็ได้ภายใน iPhoto ครับ

Straighten : คำสั่งแก้รูปเอียง

Straighten : เป็นคำสั่งเอาไว้สำหรับแก้ภาพที่เอียงให้ดูดีขึ้น การใช้งานไม่ยุ่งยากครับ เมื่อคลิ๊กเข้าไปเราจะเจอหน้าจอการทำงานแบบนี้

straighten.jpg

เราจะเห็นเส้นไกด์ขึ้นมาแบ่งส่วนต่าง ๆ ของภาพให้เราดูด้วย ซึ่งเอาไว้ช่วยให้เราเล็งเวลาปรับเอียงให้ได้ฉาก หรือได้แนวระนาบที่ต้องการครับ

การปรับเอียงก็ให้ลากลูกศรตรงกลางแถบเครื่องมือ ไปทางซ้าย - ขวา เอาตามเหมาะสม จากนั้นคลิ๊ก Done เมื่อปรับเสร็จแล้วครับ

[iPhoto' 09] การเปลี่ยนชื่อไฟล์ภาพ # 1 (เปลี่ยนรูปเดียวหรือกลุ่มเพื่อนำไปใช้ต่อนอก iPhoto)

ตามปรกติแล้วถ้าเราเอาภาพเข้า Library บน iPhoto แล้วทำการเปลี่ยนชื่อ .. ตรงนี้จะเปลี่ยนเฉพาะส่วนของ title ของภาพเท่านั้น (ชื่อไฟล์ยังคงเดิม)

ถ้าเราต้องการเปลี่ยนชื่อไฟล์ภาพแบบถาวรเองบน iPhoto ทำได้ด้วยวิธีนี้ครับ

  1. เลือกไฟล์ภาพที่ต้องการเปลี่ยนชื่อ
  2. ไปที่เมนูเลือก File/ Export
  3. บนหัวข้อ File Export เลือกส่วน File Name จากนั้นกำหนดว่าจะตั้งชื่อไฟล์ใหม่เป็นอะไรบ้าง (ดูภาพประกอบพร้อมคำอธิบายด้านล่าง)
  4. จากนั้นเลือก Export ครับ

iphoto-export-name.png

  • Use Tile : เลือกเอาชื่อไฟล์ตามชื่อ title ที่เราเปลี่ยนไว้ใน iPhoto
  • Use filename : ใช้ชื่อไฟล์ต้นฉบับ (ไม่ใช่ title แต่เป็นชื่อไฟล์ดั้งเดิม เช่น R000123.jpg)
  • Sequential : เลือกตั้งชื่อไฟล์แบบไล่ลำดับ (กรณี export มากกว่า 1 ไฟล์ เค้าจะใส่ลำดับให้)
  • Album name with number : ตั้งชื่อไฟล์ตามชื่อ Album พร้อมกับใส่ลำดับต่อท้ายชื่อไฟล์ให้

note : ตรงส่วน export นี้เรายังกำหนดลดขนาดไฟล์ภาพที่เราต้องการได้ด้วยครับ

[iPhoto' 09] การเปลี่ยนชื่อไฟล์ภาพ # 2 (เปลี่ยนรูปเดียวหรือกลุ่มใช้ใน iPhoto)

เป็นตอนที่ 2 ที่ต่อจาก [iPhoto' 09] การเปลี่ยนชื่อไฟล์ภาพ # 1 (เปลี่ยนรูปเดียวหรือกลุ่มเพื่อนำไปใช้ต่อนอก iPhoto) นะครับ สำหรับตอนแรกนั้นจะเป็นการเปลี่ยนชื่อไฟล์แบบถาวร เพื่อนำไปใช้ต่อข้างนอกโปรแกรม iPhoto

สำหรับ how to ตอนนี้จะเป็นการเปลี่ยนชื่อภาพ (ทั้งเดี่ยวหรือเป็นกลุ่ม หรือทั้งอัลบั้ม) สำหรับภาพที่อยู่ใน iPhoto เป็นหลักครับ


1.ใน iPhoto เลือกภาพที่ต้องการจะเปลี่ยนชื่อ (จะเดี่ยวหรือกลุ่มหรือทั้งอัลบั้มก็ได้ครับ)

2.บนเมนูไปที่ Photos / Batch change... (หรือกด Shift+Command+B)

batch-rname-1.gif

จะมีกล่องข้อความใหม่ขึ้นมาแบบนี้

batch-rname-2.gif

ตัวเลือกภายใต้หัวข้อ SET :

  • Title : เปลี่ยนชื่อ Titile ของภาพ
  • Date : เปลี่ยนวันที่ของภาพ
  • Description : เปลี่ยนคำอธิบายใต้ภาพ

ตัวเลือกในส่วนของ TO :

  • Empty : เป็นช่องว่างไม่มีชื่อ
  • Text : เป็นตัวอักษรตามที่เรากำหนด (เลือกหัวข้อ Append a number to each photo เพื่อที่จะไล่ลำดับเลขให้เราโดยอัตโนมัติในชื่อไฟล์ครับ ดู note 4,5 ด้านล่างประกอบ)
  • Event name : ตั้งชื่อตาม Event (ใส่เลขลำดับต่อท้ายชื่อให้เราโดยอัตโนมัติ - - ดู note 1,2 ด้านล่างประกอบ)
  • Filename : คงชื่อตามไฟล์ภาพเดิมเหมือนตอนที่เรา import เข้ามาครับ (ดู note 3 ประกอบ
  • Date/Time : ตั้งชื่อตามวันที่และเวลาที่เรากำหนด ซึ่งจะมีตัวเลือกเพิ่มเติม และมีตัวพรีวิวแสดงให้เราดูว่าไฟล์ภาพสุดท้ายชื่อจะออกมาแบบไหนครับ

batch-rname-3.gif

เมื่อกำหนดทุกอย่างเรียบร้อยแล้วกด ok เราก็จะได้ชื่อไฟล์ภาพใหม่ตามที่เราต้องการแล้วครับ =)

note :

  1. การเลือกตั้งชื่อไฟล์ตาม Event name เราจะกำหนดลำดับภาพไม่ได้เสมอไป (บาง event ภาพอาจจะเริ่มที่ลำดับที่ 10)
  2. การตั้งชื่อไฟล์แบบไล่ลำดับอัตโนมติ เช่นตั้งตาม Event name จะเป็นการไล่ลำดับตามเวลาของภาพที่ถูกถ่ายเป็นหลัก - - ไม่ใช่ลำดับที่เราเรียงใน album ครับ
  3. การตั้งชื่อไฟล์แบบ Filename จะตัดนามสกุลของภาพออก เช่น ถ้าภาพเดิมชื่อว่า DSC0001.jpg ชื่อภาพใหม่จะได้ DSC0001 ครับ
  4. ถ้าเลือกตั้งชื่อไฟล์แบบ Text แล้วเลือกไล่ลำดับไฟล์ด้วย ไฟล์จะถูกไล่เลขจากตำแหน่งที่จัดเอาไว้ใน album เป็นหลัก
  5. จากข้อ 4 การแสดงลำดับตัวเลขหลังชื่อไฟล์ จะถูกเติมด้วย "- 0XX" เสมอ เราไม่ต้องใส่ "-" ลงในชื่อตอนกรอกครับ เช่น
  • กรอกชื่อว่า "MyPhoto" จะได้ชื่อใหม่พร้อมลำดับเป็น MyPhoto - 01
  • กรอกชื่อว่า "MyPhoto - " เราจะได้ชื่อใหม่เป็น MyPhoto - - 01 ครับ