ที่มาของชื่อ Font บน Mac

ikok's picture
10285
posts
| Tags:

ผมไปเจอบทความจากในเวป ถูกเขียนโดยคุณ Susan Kare จากเวป Folklore.org ถึงเรื่องราวที่มาที่ไปของการตั้งชื่อ Font ต่าง ๆ บน Mac (คุณ Susan เป็นหนึ่งในทีมออกแบบ Font บน Mac รุ่นแรก ๆ ครับ) เธอเขียนเอาไว้ดังนี้ครับ..

การเป็นส่วนหนึ่งในทีมนักออกแบบ Bitmap ของ Macintosh เป็นความโชคดีที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิตของฉัน และส่วนหนึ่งของงานที่น่าสนใจ คือการออกแบบ Font ต่าง ๆ ที่จะถูกใช้บนเครื่อง Mac.. ที่จริงแล้วนะ มันเป็นอะไรที่ค่อนข้างสนุก ที่เครื่อง Macintosh ในตอนนี้นสามารถที่จะแสดงผลของ Font ต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง ไม่เหมือนกับพวก Font แบบ monospace ที่ดูผิดสัดส่วน (ตัว m ที่แคบ และตัว i ที่กว้าง..)

Font แรกบนเครื่อง Macintosh ถูกออกแบบมาให้เป็นแบบตัวหนา (Bold) ที่ไม่มีรอยหยัก และถูกตั้งชื่อว่า “Elefont” อันที่จริง มี Font นอกจากนี้อีกหลายชุด เราเลยที่จะต้องหาทางตั้งชื่อที่น่าสนใจและมีความเกี่ยวเนื่องกันมาตั้งเป็นชื่อ Font .. Andy Hertzfeld กับฉันเจอกันตั้งแต่ตอนเรียน high school นอกตัวเมือง Philadelphia เราเลยเริ่มที่จะตั้งชื่อ Font ตามเส้นทางเดินรถไฟของ Paoli Local Commuter Train ซึ่งก็ได้มาตามนี้ : Overbrook, Merion, Ardmore และ Rosemont ( Font ชื่อ Ransom เป็นชื่อที่ไม่ถูกตั้งตามชื่อเมือง โดย Font นี้จะเป็นการเรียงอักษรที่ดูไม่เหมือนกัน เหมือนอย่างจดหมายที่ถูกสร้างโดยโจรเรียกค่าไถ่ ที่จะตัดตัวหนังสือจากที่ต่าง ๆ มารวมกันเป็นจดหมาย)

จนกระทั่งวันหนึ่งสตีฟ จอบส์เดินมาที่แผนกพัฒนาซอฟแวร์ (เป็นปรกติที่เค้าจะมาบ่อย ๆ ตอนเลิกงาน) เค้าทำหน้าสงสัยตอนที่มองไปที่ชื่อ Font ต่าง ๆ บนเมนูพร้อมกับถามว่า“ชื่อ Font พวกนี้หมายถึงอะไร?” เราเลยอธิบายเกี่ยวกับที่มาของชื่อที่ได้มาจากเส้นทางการเดินรถของ Paoli Local ให้เค้าฟัง

“อืม..” สตีฟ พูด “การนำชื่อเมืองมาตั้งเป็นชื่อ Font นี่ OK นะ แต่ต้องไม่ใช่ชื่อเมืองเล็ก ๆ ที่ไม่มีใครเคยได้ยิน.. มันต้องเป็นชื่อเมืองที่เป็นที่รู้จักในระดับโลกสิ”

และนั่นคือที่มาของ Font ชื่อ Chicago(Elefont), New York, Geneva, London, San Francisco(Ransom), Toronto และ Venice บนเครื่อง Macintosh ..

เข้าไปดูภาพ Font รุ่นบุกเบิก และ ต้นฉบับของบทความนี้ได้จาก
http://folklore.org/StoryView.py?project=Macintosh&story=World_Class_Cities.txt&sortOrder=Sort%20by%20Date&detail=medium&search=world%20class

ผ่าน digg.com

note : เวป folklore.org เป็นเวปที่รวบรวมเนื้อหาที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ในหลาย ๆ มุมมองไว้รวมกัน น่าสนใจดีนะครับ