ชาร์ต แบทมากไปไหม?

เสียบค้างไว้ cycle ไม่ค่อยขึ้นจริงครับ แต่แบตฯ ตายเร็วกว่าปรกติครับ

เขาตัดเข้าใช้ไฟบ้านเมื่อแบตฯ ถูกชาร์จเต็มแล้ว แต่พอสักพัก แบตฯ จะคลายประจุออกมาเอง 1-2 % แล้วเมื่อถึงจุดที่เครื่องรับรู้ว่า แบตฯ ไม่เต็ม เช่นแบตฯคายประจุจนเหลือ 98% เขาก็จะตัดไฟชาร์จเข้าแบตฯ ต่อจนถึง 100% ใหม่ครับ

สรุปคือ ต่อให้เสียบชาร์จไฟบ้านค้างเอาไว้ ยังไงเสีย แบตฯก็จะคายประจุและชาร์จใหม่(ที่ % น้อย ๆ นี้) ไปเรื่อย ๆ โดยที่เราไม่รู้ตัวครับ

cycle count ขึ้น แต่ไม่มากเพราะถูกชาร์จทีละน้อยแบบทะยอยชาร์จ

แต่ที่ตามมาคือ แบตฯในส่วนที่ไม่มีไฟไหลผ่านเลย cell ตรงนี้จะค่อย ๆ ตายไปครับ

เรื่องนี้ไม่เป็นเฉพาะกับแบตฯ บนเครื่อง mac ครับ แบตฯ โน๊ทบุคอื่น ๆ มีลักษณะการใช้งานไม่ต่างกัน คือเขาถูกออกแบบมาให้มีประจุไหลผ่าน ถ้าไม่มีไฟไหลผ่านเลย เขาจะค่อย ๆ เสื่อมสภาพไปเองแบบเร็วกว่าที่ควรจะเป็นครับ

note:

1. แบตฯ จะค่อย ๆ คลายประจุออกมาเอง อันนี้เป็นธรรมชาติของเขาครับ ต่อให้ทิ้งเอาไว้เฉย ๆ เขาก็จะคลายประจุครับ แต่ก่อนตอนที่เครื่อง mac ยังถอดแบตฯ ออกมาจากเครื่องได้ ทาง Apple แนะนำไว้ว่า ถ้าจะต้องถอดแบตฯ ทิ้งเอาไว้เฉย ๆ เป็นระยะเวลานาน ๆ ควรจะมีไฟเหลืออยู่ในแบตฯ บ้าง (ผมจำไม่ได้แน่นอนแล้วว่าควรเหลือที่เท่าไหร่ แต่ต้องมี เพราะแบตฯ จะคลายประจุเมื่อเวลาผ่านไปตามเหตุผลที่ผมบอกไปแล้วครับ)
2. cycle count บอกอายุแบตฯ ได้คร่าว ๆ แต่ไม่ได้หมายความว่า ให้หลีกเลี่ยงด้วยการชาร์จไฟบ้านตลอดเพื่อให้ cycle count ไม่ขึ้น(หรือขี้นน้อย) <-- แบบนี้ให้ผลในทางตรงกันข้ามครับ คือแบตฯ จะตายเร็วกว่าที่ควรจะเป็น
3. เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ครับ มีหลายคนที่ cycle count น้อย เพราะชาร์จไฟบ้านตลอดเวลา เมื่อถึงเวลาต้องใช้ไฟแบตฯ จริง ๆ เขาจะเก็บไฟน้อยกว่าที่ควรจะเป็น หรือไม่เก็บไฟเลยครับ

shutdown คือปิดเครื่องไปเลย ไม่มีการทำงานใด ๆ อีก
sleep เป็นการปิดเครื่องแค่บางส่วนครับ ยังมี process บางส่วนค้างเอาไว้ในเครื่องสามารถตื่นขึ้นมาทำงานต่อได้เลยโดยที่ไม่ต้องรอเวลา startup ครับ

ลองเปิดเครื่องขึ้นมาแล้วสั่ง sleep ดูนะครับ ถ้าใช้เครื่อง macbook ก็ลองพับจอปิดลงมาเลยก็ได้ เขาจะ sleep ให้เองครับ จากนั้นถ้าจะทำงานต่อ ก็กางจอออกมาเหมือนเดิม

เมื่อชาร์จไฟบ้านจนแบตฯ เต็มแล้ว ให้เอาปลั๊กออกครับ

แบตฯสมัยใหม่ พัฒนาไปเยอะแล้วตามที่คุณเข้าใจครับ เป็นแค่ในส่วนของการนับรอบการชาร์จ ที่ไม่จำเป็นต้องใช้ให้หมด 100% แล้วถึงจะชาร์จได้ แบตฯ สมัยใหม่มีการนับรอบการชาร์จที่ยืดหยุ่นกว่าแต่ก่อน ให้เราชาร์จเมื่อไหร่ก็ได้

แต่ไม่ได้หมายความว่าการเสียบใช้งานไฟบ้านกับเครื่องโน๊ตบุคตลอด จะเป็นวิธีที่ถูกต้องครับ

การเสียบปลั๊กคาเอาไว้ตลอดเวลา ข้ามวันข้ามคืน ทำให้มีเซลแบตฯ บางส่วนไม่ถูกใช้งานมาในภาพที่เขาถูกออกแบบมาให้ใช้ และนั่นจะทำให้เซลแบตฯ ส่วนที่ไม่มีไฟไหลผ่านเลย ค่อย ๆ ตายไปโดยที่เราไม่รู้ตัวครับ

เหตุผลเรื่องนี้อยู่ในคห.ที่สองครับ

ของน้องพิม count เร็วกว่ารถแข่งซะอีกกก จำได้ว่าซื้อไม่นานนี่น่าาา

ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ ตอนแรกผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน
เทคโนโลยีเดี๋ยวนี้เปลี่ยนตลอด ตามกันไม่ค่อยทันครับ

ชาร์จเต็มแล้ว ก็เอาปลั๊กออก ใช้ไฟจากแบตฯ จนกว่าจะเกือบหมด หรือตามสถานการณ์ ก็ค่อยเสียบไฟบ้านชาร์จเข้าไปใหม่ครับ

ไม่ควรเสียบไฟบ้านค้างเอาไว้ข้ามวันข้ามคืนหรือว่าตลอดเวลาครับ ควรที่จะให้เซลของแบตฯ ได้มีกระแสไฟไหลเวียนบ้าง ด้วยการใช้ไฟจากแบตฯในเครื่อง (เอาปลั๊กไฟบ้านออก) ครับ