ยุดีๆ แม็คก็ดับไปเฉย แร้วพอผมเปิด ขึ้นมา ให้เข้าเน็ตเฉย แต่ผมไม่รู้รหัสครับ

ไม่ใช่ผมไม่รักภาษาไทยนะครับ แค่มีความคิดเห็นที่แตกต่าง

ผมว่าการที่ภาษาใด ๆ ยังมีการเกิดคำพูดใหม่ๆ ภาษาทางการก็ดี หรือ ภาษาแสลงก็ดี มันแสดงว่า ภาษานั้นยังไม่ตาย เช่น ภาษาบาลีสันสกฤต หรือ ภาษาลาติน เป็นภาษาที่ตายแล้ว ไม่ถูกนำมาใช้ในการพูดสนทนา จึงถูกนำไปใช้ในวงการวิชาการ ซึ่งต้องการความนิ่งของภาษา ส่วนภาษาที่พวกเราใช้กันในปัจจุบัน เป็นภาษาที่ยังไม่ตาย จึงมีการเกิดใหม่และเลิกใช้ของคำ ไม่เว้นแม้แต่ภาษาทางการยังมีคำเกิดขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนภาษาแสลง แน่นอนว่ามันย่อมฟังแล้วไม่เป็นทางการ และเกิดเร็วกว่าภาษาทางการ แต่มันถูกเลิกใช้เร็วกว่าภาษาทางการมากครับ เกิดมาไม่นานก็หายไป และยังใช้กันในบางช่วงวัย และบางกลุ่มคนเท่านั้น เมื่อคนเหล่านี้ผ่านพ้นวัยนั้น หรือเข้ามาสู่สังคมที่ใหญ่ขึ้น ผมเชื่อว่า คนเหล่านี้จะปรับตัวเข้าหาสังคมใหม่ได้ครับ อีกอย่างภาษาแสลงเป็นภาษาที่สามารถใช้สื่ออารมณ์ของผู้พูดผ่านทางตัวพิมพ์ได้ดีกว่าภาษาทางการหลายเท่าครับ

ชีวิตคนเราหนึ่งชีวิต มีการได้พบปะผู้คนหลายกลุ่ม และหลายระดับ จึงต้องมีภาษาหลายระดับเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการสื่อสารที่คนแต่ละกลุ่มเข้าถึงได้ง่าย และเร็วที่สุด เช่น ผมจะไปพูดกับผู้ใหญ่วัย 40 ขึ้นไป หากนำภาษาแสลงไปใช้คุยกันทั้งวันก็ไม่เข้าใจ และอาจถูกต่อว่าได้ เพราะคนวัยนั้น ไม่ชินและไม่ชอบภาษาพวกนี้ มันทำให้รู้สึกว่าไม่ให้ความเคารพ ในทางกลับกันถ้านำไปพูดกับคนที่อายุน้อยลงมาพวกเค้าสามารถเข้าใจความหมายและอารมณ์ของผู้พูดได้ จึงไม่รู้สึกรำคาญและต่อต้าน
ในทำนองเดียวกัน ถ้าผมนำภาษาทางการไปพูดกับเด็กวัย 15 แน่นอนครับ เค้าไม่คุยกับผมแน่นอน เพราะมันเป็นภาษาที่เด็กวันนั้นเข้าถึงได้ยาก ฟังแล้วไม่เข้าใจ และทำให้รู้สึกห่างเหิน

พูดมาซะเยอะ (มากด้วย) ผมจึงคิดว่า การใช้ภาษาน่าจะอยู่ผู้ฟังเป็นสำคัญมากกว่าครับ เลือกใช้กันให้ถูกที่ถูกเวลา หรือถูกกาลเทศะ นั้นเอง

อาจจะเป็น "อุปกรณ์สื่อสาร" อย่างที่คุณว่าจริงครับ
แต่มันแสดงออกถึงความเคารพต่อคนที่เราคุยด้วย
แสดงถึงหลายๆอย่าง

ไม่ใช่แค่คนไทยหรอกครับที่มองเรื่องนี้
ต่างประเทศจะติดต่องานกัน เป็นเรื่องราว
พวกเค้าเหล่านั้นก็พูดจากันด้วยภาษาที่เป็นทางการ
และฟังรู้เรื่องครับ และภาพลักษณ์ของพวกเค้า
เหล่านั้น ก็สำคัญแบบที่ว่าเสียไม่ได้เลยด้วย

หรือ การจะนำเสนองานสักอย่าง
การเลือกใช้ภาษาสามารถแสดงถึงความตั้งใจ
การเตรียมตัวของเราได้เป็นอย่างดี

แล้วผมคิดว่า การจะ "สื่อสาร" กับใครสักคน
ผู้สื่อจะคิดแทนผู้รับไม่ได้ ว่า "เอาเหอะ พูดๆไปรู้เรื่องเหมือนกัน"
แต่ผู้รับจะเป็นคนตัดสินว่าสื่อออกมาได้ดีหรือไม่ดี
รู้เรื่องรึเปล่า หรือเป็นแค่เสียงที่ออกมาจากปาก

ไม่ผิดหรอกครับ ถ้าแล้วก็ไม่มีใครว่าคุณผิดด้วย แต่ผมอ่านกระทู้คุณซ้ำ 3-4 รอบ อ่านยังไงก็ไม่เข้าใจว่า เครื่องคอมดับ แล้วคุณไม่รู้รหัส มันเกี่ยวกันยังไง เลยไม่รู้จะแนะนำอะไร

มีคนยินดีตอบทุกเรื่องครับ ถ้าเค้าเข้าใจสิ่งที่คุณถาม

ปล. ผมเป็นคนตรง ๆ ครับ อาจจะใช้คำพูดไม่น่าฟัง แต่ผมรุ้สึกอย่างนั้นจริง ๆ

เป็นเจ้าของตัว router ที่ปล่อยสัญญาณเองรึเปลาครับ

ที่ไม่สามารถ connect ssid ที่ชื่อ true_wifi ได้ มันขึ้น message อะไรมาบ้างครับ
invalid password, wrong pass, connection failed , connection time out รึเปล่า

อีกคำถามคือ คุณสามารถตั้งค่าตัว router เองได้รึเปล่าครับ

capture หน้าจอมาให้ดูหน่อยสิครับ

ในทุกความเห็นที่พี่เข้ามาตอบค่ะ เห็นด้วยเป็นที่สุดโดยเฉพาะเรื่องภาษา และเครื่องที่ดับเอง คิดว่าคงมีอะไรผิดปกติ ปกติจะดับก้อแบตหมดเป่นสุดๆนั้นแหละค่ะ

โดยส่วนตัว และน้องๆ อีกหลายคนที่เข้ามาทักเรื่องการใช้ภาษาไทยให้ถูกต้อง ผมเชื่อว่าทุกคนไม่ได้มีความต้องการอยากให้ตนเองดูดี ดูเจริญกว่าผู้อื่นอยู่ในความคิดครับ ผมไม่ใช่นักการเมือง ที่ต้องการให้รูปลักษณ์ตัวเองดูดี ไม่ได้ต้องการให้ใครนับหน้าถือตา และยกย่องครับ ขอความกรุณาอย่าแปลจุดประสงค์ที่ดีไปในทางที่ผิดๆ ครับ

เพียงแค่เป็นความปราถนาดี เลยทักกันบ้าง เตือนกันบ้าง ใครจะรับก็รับ ใครจะไม่รับก็แล้วแต่บุคคลครับ ทั้งนี้เพราะถ้าท่านที่ใช้ภาษาเพี้ยนๆ ภาษาแอ๊บแบ๊วเพื่อความเท่ห์ เก๋ ไปกระทำเป็นการส่วนตัว เช่น คุยกันกับกลุ่มเพื่อนไม่ว่าจะช่องทางไหน นั่นย่อมเป็นสิทธิ์ของเค้าครับ

แต่เมื่อการใช้ในที่สาธารณะ ที่มีผู้คนหลากหลายระดับอายุ ทั้งเด็ก ทั้งผู้ใหญ่ เข้ามาอ่าน การใช้ภาษาเพี้ยนๆ เบี้ยวๆ แบบนี้มากๆ แล้วไม่มีการทักท้วง ให้ถูกต้องแล้ว วันหนึ่งมันจะกลายเป็นความคุ้นชิน และกลายเป็นความถูกต้องปกติไปสำหรับน้องๆ ที่ยังไม่มีวุฒิภาวะแยกแยะได้ว่า แบบนี้ผิด แบบนั้นถูก

เปรียบเหมือนการรณรงค์ให้คนข้ามถนนด้วยสะพานลอย ถ้าเราไม่ช่วยกันเตือนคนข้ามถนนใต้สะพานลอย (ไม่ใช้สะพานเพราะขี้เกียจ มักง่าย) เราเห็นแล้วเฉยๆ ต่อไปก็คงเป็นเรื่องปกติอีกที่ไม่ใช้สะพานลอยครับ พอเกิดอุบัติเหตุไปแล้ว มานั่งเสียใจและย้อนเวลากลับไม่ได้ครับ ลองช่วยนึกๆ ดูครับ ยังมีอีกหลายอย่างที่ไม่ถูก ไม่ควร แต่เราปล่อยเราละเลยไม่ช่วยกันเตือนไม่ช่วยกันทัก มันก็กลายเป็นเรื่องธรรมดา จนดูไม่มีระเบียบวินัย ยุ่งเหยิงกันไปหมดครับ

ส่วนความคิดเห็นอื่นๆ ทั้งหมด รวมทั้งข้อความของเจ้าของกระทู้เองในกระทู้นี้ ทุกความคิดเห็นขอรับฟังทั้งหมด แต่ผมจะกรองเอาแต่สิ่งที่ดีและถูกต้องเก็บไปไว้ในสมองเท่านั้น ส่วนกาก หรือส่วนเกินที่บิดๆ เบี้ยวๆ ทั้งหลายขอทิ้งไว้ที่เดิมครับ