[เปรียบเทียบแบบบ้าน ๆ ] Intel Core i VS. Intel Core2Duo

หลักจากอ่านข้อมูลมาพักใหญ่ ๆ แล้ว ที่จะเขียนต่อไปนี้เป็นภาพกว้าง ๆ เกี่ยวกับตัว CPU รุ่นใหม่ (Intel core i) และตัวก่อนหน้านี้ (Intel Core2Duo) ครับ

ก่อนเริ่ม : สถาปัตยกรรม CPU

CPU มีหน้าที่หลักในการคำนวณต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายในเครื่อง เมื่อก่อนตัว CPU นี้จะเพิ่มความเร็วให้มากขึ้นทุก ๆ ปี ตามกฎของมัวล์ ที่ระบุว่าตัวทรานสิสเตอร์ภายใน chip จะเพิ่มมากขึ้นเป็น 2 เท่าทุก ๆ 2 ปี หรือเอาง่าย ๆ ว่าความเร็ว CPU จะมากขึ้นเพราะเป็นตัวแปรผันตรงกับค่าที่ได้ตรงนี้

ทีนี้ เมื่ออุตสาหกรรม CPU พัฒนามาถึงจุด ๆ หนึ่ง ที่เป็นข้อจำกัดของการจัดการความร้อนของ CPU ที่มีความเร็วสูงและปัจจัยทางการตลาดอื่น ๆ อีกที่ทางผู้ผลิตเห็นว่า การแข่งด้านความเร็ว CPU เพียงอย่างเดียวสุดท้ายแล้วมันจะสร้างผลเสียให้กับตัวบริษัทเอง จึงหันไปพัฒนาเทคโนโลยีที่อยู่รอบ ๆ ตัว CPU แทน เช่น Hyper-Threading หรือ Turbo Boost ที่เราเห็นกันใน CPU รุ่นใหม่ของ Intel core i ที่ทำให้ CPU รุ่นใหม่ ๆ มักจะมีประสิทธิภาพที่มากกว่า CPU รุ่นเก่าแม้ความเร็ว clock speed จะเท่ากัน

Core2Duo vs. Core i5 vs. Core i7

ผมคิดว่าเรื่องนี้แตกต่างกันในทางเทคนิคที่ไกลตัวผู้ใช้ทั่วไปพอสมควร(รวมถึงผมเองด้วย) .. เอาเป็นว่าอธิบายเป็นภาพแทนดีกว่าครับ

• Core2Duo (สีเหลือง)
• Core i5 (สีขาว)
• Core i7 (สีน้ำตาล)

มาเป็นข้อเปรียบเทียบบ้าน ๆ แบบนี้ครับ

• กรรไกรทั้งสามอันนี้ ตัดกระดาษ A4 ทั่วไปได้ในเวลาพอ ๆ กัน แต่ถ้าตัดกระดาษที่หนาหรือชิ้นใหญ่ขึ้นมาก ๆ กรรไกร i5 กับ i7 จะได้เปรียบ
• กรรไกร i7 ตัดกระดาษแข็งได้เมื่อยมือน้อยกว่ากรรไกร i5
• กรรไกรทั้งสามอันนี้ตัดกระดาษแข็งได้ แต่ใช้เวลาต่างกันตามความหนาที่เพิ่มขึ้นหรือขนาดของกระดาษที่เพิ่มขึ้น

ต่อไปที่ข้อมูลจากกราฟเปรียบเทียบการทำงานจากเว็บ apple.com

Intel Core2Duo vs. Intel Core i

เป็นเรื่องที่หลายคนสงสัย และต้องการเปรียบเทียบว่าแบบไหนจะทำงานได้ดีกว่ากัน ก่อนจะไปที่ข้อสรุป ลองมาดดูกราฟประกอบจากในหน้า CPU ของ MacBook Pro รุ่นใหม่กันก่อนครับ

คำตอบที่ผมพอจะแนะนำให้ได้คือ ขึ้นอยู่กับสภาพการทำงานที่คุณต้องการครับ เพราะ

1.CPU ทั้ง Core i และ Core2Duo ทำงานได้ไม่ต่างกันในโปรแกรมที่ไม่ใช้การคำนวณแบบต่อเนื่อง (CPU intensive application) หรือเป็นการทำงานที่เกิดการคำนวณขึ้นในช่วงสั้น ๆ เช่น

• การรับส่งอีเมล์
• การพิมพ์งาน
• การเล่น internet
• หรือการใช้คำสั่งพื้นฐานบ้าน ๆ ทั่วไปในโปรแกรมรุ่นใหญ่อย่าง Aperture กราฟแสดงว่า Intel core i แสดงประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นมาเพียง 10%

2.CPU แบบ Core i จะเริ่มแสดงความแตกต่างที่เห็นได้ชัด (หรือบางคนเรียกว่าดีขึ้น) บนโปรแกรมที่ใช้งาน CPU คำนวณอย่างต่อเนื่องและเป็นเวลานาน ๆ เช่น

• เรนเดอร์ภาพในโปรแกรม 3D
• โปรแกรมคำนวณสูตรเคมี
• การแปลงไฟล์ encode/decode ต่าง ๆ

note : จากกราฟจะเห็นว่า Apple Final Cut Studio กับโปรแกรม 3D (modo 401) นั้นสามารถแสดงประสิทธิภาพได้ที่ระดับ 30-50%

3.ความเข้าใจผิดของคนส่วนใหญ่คือ เทคโนโลยีของ CPU รุ่น core i นี้จะทำให้ประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นหลายเท่าโดยไม่เกี่ยงว่าจะใช้โปรแกรมอะไร...

ที่ถูกต้องคือ CPU แบบ Core i จะทำงานเต็มที่ได้ ตัวโปรแกรมต้องถูกออกแบบมาให้ใช้เทคโนโลยีใหม่ที่อยู่รอบ ๆ ตัว CPU ด้วย เช่น Hyper-Threading ที่จะทำให้โปรแกรมเห็น CPU มี core เสมือนเพิ่มขึ้นมาเอาไว้ช่วยในการทำงาน (อ่านเกี่ยวกับ Hyper-Threading กับ TurboBoost บน CPU Intel Core i ได้ที่นี่ครับ)

จากกราฟ โปรแกรมของ Apple เอง ทั้ง Final Cut และ Aperture แสดงประสิทธิภาพที่แตกต่างกันอย่างมีนัยยะสำคัญ น่าจะเป็นข้อยืนยันตรงนี้ได้อย่างชัดเจนครับ

ลองดู benchmark ที่เร่ิมจะมีให้เห็นกันแล้วตามเว็บต่าง ๆ ก็ได้ครับ ถ้าเป็นการทำงานบ้าน ๆ ที่ไม่เกิดการคำนวณต่อเนื่องนาน ๆ ตัว Intel Core i จะทำงานได้ไม่แตกต่าง หรือดีขึ้นน้อยมาก ถ้าเทียบกับ Core2Duo ครับ

แต่ถ้าคุณใช้โปรแกรมจำพวก CPU Intensive บ่อย ๆ คุณจะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงแบบรู้สึกได้ครับ

note : ถ้าใครรอได้ ก็รอให้มี รีวิวออกมาเยอะกว่านี้ก่อนแล้วค่อยตัดสินใจก็ได้ครับ

หวังว่าคงจะพอทำให้เห็นภาพได้คร่าว ๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจเลือกเครื่องมาใช้งานได้ตรงตามความต้องการนะครับ